ทียูเอฟ รายงานผลประกอบการไตรมาสสี่และผลประกอบการปี 2557 สร้างสถิติใหม่สูงสุด

  • ยอดขายรวมของกลุ่มทียูเอฟตลอดปี 2557 สูงสุดเป็นประวัติการณ์อยู่ที่ 121.4 พันล้านบาท เติบโต 7.6 เปอร์เซนต์
  • กำไรสุทธิประจำปีสูงสุดที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.5 เปอร์เซนต์ จากเดิม 2.85 พันล้านบาทในปี 2556
  • กำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.099 บาท เพิ่มขึ้น 76.7 เปอร์เซนต์ ในปี 2557
  • กำไรสุทธิก่อนหักดอกเบี้ยภาษีเงินได้และค่าเสื่อมเพิ่มขึ้น 39.8 เปอร์เซนต์ ในปี 2557
  • ทียูเอฟประกาศการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท
  • ทียูเอฟ คาดผลประกอบการดีต่อเนื่องด้วยเป้ายอดขายที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2558 นี้

กรุงเทพฯ - (27 กุมภาพันธ์ 2558) - บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ รายงานผลประกอบการดีเด่นประจำไตรมาสที่สี่และประจำปี 2557 โดยมียอดขายรวมของกลุ่ม ทียูเอฟตลอดปี 2557 สูงสุด 121.4 พันล้านบาท หรือ 3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ ถือเป็นผลประกอบการดีที่สุดเท่าที่เคยมีมาอีกครั้ง โดยยอดขายสูงสุดเป็นผลมาจากการเข้ามาของเมอร์อไลอันซ์ และคิงออสการ์ ซึงทียูเอฟได้เข้าซื้อกิจการดังกล่าวตั้งแต่เดือนกันยายน 2557 นอกจากนี้ยังมีกำไรสุทธิประจำปีอยู่ที่ 5.1 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 78.5 เปอร์เซนต์เมื่อเทียบกับปีก่อน การขยายตัวของกำไรสุทธิเป็นผลมาจากการฟื้นตัวของรายได้ในทุกหน่วยธุรกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในธุรกิจปลาทูน่า

ทียูเอฟ รายงานกำไรก่อนหักดอกเบี้ยภาษีเงินได้และค่าเสื่อมของปี 2557 นี้ เพิ่มขึ้น 39.8 เปอร์เซนต์ และมีกำไรต่อหุ้นอยู่ที่ 1.099 บาท เพิ่มขึ้น 76.7 เปอร์เซนต์ เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า

ผลประกอบการไตรมาสสี่ มียอดขายเพิ่มขึ้น 7.7 เปอร์เซนต์ อันเป็นผลมาจากการดำเนินการในหลายมาตรการของบริษัทฯ ได้แก่ การริเริ่มกลยุทธ์ในธุรกิจผลิตภัณฑ์แบรนด์ การปรับปรุงผลิตภาพเพื่อความเป็นเลิศอย่างต่อเนื่อง รวมไปถึงผลบวกจากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้นจากการเข้ามาของเมอร์อไลอันซ์ และ คิงออสการ์ โดยทียูเอฟ มียอดขายประจำไตรมาสสูงสุดเป็นประวัติการณ์ด้วย ที่ 32.8 พันล้านบาทหรือที่ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ เปรียบเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้าที่ 30.8 พันล้านบาท

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้นำและเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเล และผู้ผลิตทูน่าบรรจุกระป๋องอันดับหนึ่งของโลก กล่าวว่า "ถือเป็นอีกปีที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของทียูเอฟทั้งเรื่องกำไรสุทธิและยอดขายรวมสูงสุด ผลประกอบการปี 2557 บ่งชี้การเติบโตที่เพิ่มขึ้นอันเป็นผลมาจากหมวดหมู่แบรนด์ผลิตภัณฑ์ต่างๆ และประสิทธิภาพการจัดการด้านต้นทุน การดำเนินการเหล่านี้ยังคงเป็นสิ่งสำคัญควบคู่ไปกับการยกระดับการคัดสรรวัตถุดิบ การผสานร่วมกันทั้งด้านการผลิตและการตลาดกับบริษัทใหม่ที่เข้ามาอย่าง เมอร์อไลอันซ์ และคิงออสการ์ ซึ่งคาดว่าจะเห็นผลในเวลาอีกไม่นาน ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราที่จะขับเคลื่อนผลการดำเนินงานและการเติบโตที่แข็งแกร่ง"

ภาพรวมสัดส่วนรายได้ของ 6 กลุ่มธุรกิจแบ่งตามผลิตภัณฑ์หลักของทียูเอฟของปี 2557 มีผลงานโดดเด่นดังนี้ กลุ่มธุรกิจปลาทูน่ามีสัดส่วนรายได้เท่ากับ 44 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกุ้ง 24 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง 7 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล 5 เปอร์เซนต์ กลุ่มธุรกิจปลาแซลมอน 5 เปอร์เซนต์ และกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ 15 เปอร์เซนต์ ขณะที่สัดส่วนรายได้ของกลุ่มธุรกิจทียูเอฟ ประจำปี 2557 โดยแบ่งตามตลาดมีดังนี้ สหรัฐอเมริกา มีสัดส่วน 44 เปอร์เซนต์ ยุโรป 29 เปอร์เซนต์ ตลาดในประเทศ 7 เปอร์เซนต์ ญี่ปุ่น 7 เปอร์เซนต์ และตลาดอื่นๆ รวม 13 เปอร์เซนต์

บริษัทฯ มีผลกำไรที่โดดเด่นในกลุ่มธุรกิจปลาทูน่า นอกจากนี้ผลประกอบการที่น่าพอใจมาจากการเติบโตของกำไรสุทธิในธุรกิจปลาแซลมอน อันเป็นผลมาจากการรวมกิจการของเมอร์อไลอันซ์ และในกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ จากยอดขายที่เพิ่มขึ้นของล็อบสเตอร์ ซึ่งดำเนินงานโดยชิคเก้นออฟเดอะซี โฟรเซ่น ฟู้ด บริษัทในเครือในสหรัฐอเมริกา

ผลจากการดำเนินการที่โดดเด่นในปี 2557 ทำให้ภาพรวมธุรกิจของทียูเอฟในปี 2558 ยังคงไม่เปลี่ยนแปลง นายธีรพงศ์ กล่าวต่อ "ธุรกิจเรามีแนวโน้มที่ดีต่อไปในปีนี้ โดยเราจะตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าและผู้บริโภคในตลาดต่างๆ ทั่วโลก ด้วยการนำเสนอความหลากหลายของผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมี่ยม และบริษัทฯ ยังคงมุ่งเน้นการสร้างผลตอบแทนการลงทุนอันโดดเด่นแก่ผู้ถือหุ้นและทียูเอฟ เพื่อสร้างการเติบโตให้ต่อเนื่องต่อไป"

เป้าหมายยอดขายรวมของบริษัทฯ ประจำปี 2558 นี้อยู่ที่ 5 พันล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีโอกาสจากการเจริญเติบโตที่มาจากภายในธุรกิจหลักของบริษัท และการมุ่งเน้นที่กลยุทธ์การรวมพลังเป็นหนึ่งเดียวของธุรกิจ "การที่จะใช้ประโยชน์จากโอกาสเหล่านี้ เราต้องดำเนินการด้วยการรักษาระเบียบวินัยทางการเงิน ในขณะเดียวกันก็ต้องนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูง การสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อผู้บริโภค และที่สำคัญมากคือการยึดมั่นแนวทางความยั่งยืนในการดำเนินการทุกหน่วยธุรกิจ" นายธีรพงศ์ กล่าวเพิ่มเติม

"ทียูเอฟ ได้ประกาศการจ่ายเงินปันผลประจำปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.55 บาท ซึ่งเป็นผลจากนโยบายการจ่ายเงินปันผลเกิน 50 เปอร์เซนต์ของกำไรสุทธิ และช่วยยืนยันเจตนารมย์อันแน่วแน่ของฝ่ายบริหารในการดำเนินนโยบายกระจายเงินปันผลที่แข็งแกร่ง เราปรารถนาให้ผู้ถือหุ้นของเรามีส่วนร่วมกับการเติบโตสูงสุดของธุรกิจเรา"

"หลังจากที่เรามุ่งเน้นการเติบโตด้วยการควบรวมกิจการในไตรมาสที่ผ่านมา ปีนี้เราจะให้ความสำคัญกับความเป็นเลิศในการปฏิบัติการ การผลักดันการเติบโตที่มาจากธุรกิจหลักของบริษัทฯ และการรวมเป็นหนึ่งเดียวเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในทุกหน่วยธุรกิจของเรา" นายธีรพงศ์ กล่าวสรุป

*ส่วนต่อไปนี้ของข่าวประชาสัมพันธ์ห้ามแจกจ่ายไปยังสหรัฐอเมริกา

ข่าวเผยแพร่ เรื่อง การเพิ่มทุน

เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2558 คณะกรรมการของบริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนประมาณ 400,000,000 ดอลล่าร์สหรัฐ (หรือเท่ากับประมาณ 13,200,000,000 บาท) บริษัทฯ วางแผนจะนำเงินที่ได้รับจากการเพิ่มทุนดังกล่าวไปใช้ในการเพิ่มทุนส่วนของเงินลงทุนในการเข้าซื้อกิจการของ Bumble Bee Foods ซึ่งเป็นผู้ประกอบกิจการอาหารบรรจุหีบห่อชั้นแนวหน้าในทวีปอเมริกาเหนือ และเป็นที่รู้จักในตลาดอาหารทะเลที่สามารถเก็บรักษาที่อุณหภูมิห้องได้เป็นเวลานาน (shelf-stable seafood) ทั้งในตลาดสหรัฐอเมริกาและแคนาดา

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เคยแจ้งการเข้าซื้อกิจการของ Bumble Bee แล้วและคาดว่าการเข้าทำธุรกรรมจะเสร็จสิ้นภายในปี 2558 แต่การเข้าทำธุรกรรมดังกล่าวยังคงอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาอนุญาตของหน่วยงานว่าด้วยการป้องกันการผูกขาดทางการค้าของสหรัฐอเมริกาและการดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อนที่กำหนดอยู่ในสัญญาซื้อขายกิจการ อนึ่ง บริษัทฯ จะเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทฯ ที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้นซึ่งมีรายชื่อปรากฏอยู่ในสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น ณ วันที่คณะกรรมการของบริษัทฯ จะได้กำหนดต่อไป ซึ่งการจัดสรรหุ้นดังกล่าวจะเป็นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นที่ผู้ถือหุ้นเดิมแต่ละรายถืออยู่ ("การเสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปโดยเฉพาะเจาะจง") (Preferential Public Offering) ทั้งนี้ เท่าที่บริษัทฯ สามารถดำเนินการได้ภายใต้กฎหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนดังกล่าวต้องได้รับการอนุมัติจากการประชุมสามัญประจำปีผู้ถือหุ้นในวันที่ 3 เมษายน 2558

เอกสารฉบับนี้ไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการเสนอขายหลักทรัพย์ในสหรัฐอเมริกา หรือในประเทศใด ๆ และบริษัทฯ ไม่เคย และไม่มีเจตนาที่จะนำหุ้นของบริษัทฯ ไปจดทะเบียนภายใต้ United States Securities Act of 1933 (รวมทั้งที่แก้ไขเพิ่มเติม) ดังนั้น จึงไม่อาจมีการเสนอขายหุ้นของบริษัทฯ ในสหรัฐอเมริกาได้ (เว้นแต่ จะได้มีการจดทะเบียน หรือ ได้รับประโยชน์จากข้อยกเว้นที่เกี่ยวข้อง) ในการนี้ จะไม่มีการเสนอขายหุ้นของบริษัทฯ แก่ประชาชนเป็นการทั่วไปในสหรัฐอเมริกา

เกี่ยวกับทียูเอฟ

เป็นเวลากว่า 38 ปีที่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ได้สนองตอบความต้องการของผู้บริโภคทั่วโลกในด้านผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ ปลอดภัย และสะดวกในการรับประทาน วันนี้ทียูเอฟถือเป็นผู้ผลิตทูน่าบรรจุกระป๋องที่ใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลรายใหญ่ของโลกโดยมียอดขายกว่าหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี (3.8 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีการจ้างงานกว่า 35,000 ตำแหน่งทั่วโลก

ตลอดเวลาเราทุ่มเทการผลิตสินค้าอาหารทะเลที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูง และใส่ใจในเรื่องรสชาติ และความสะดวก เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าและสร้างความพึงพอใจสูงสุดให้กับผู้บริโภคทั่วโลก เราเป็นเจ้าของแบรนด์ชั้นนำในต่างประเทศ เช่น Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, Century และแบรนด์ที่จำหน่ายภายในประเทศไทย เช่น ซีเล็ค ฟิชโช และเบลลอตต้า

ในฐานะที่ทียูเอฟ เป็นบริษัทที่ยึดมั่นในนวัตกรรม และการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม เราภูมิใจที่ได้เข้าเป็นภาคีข้อตกลงระดับโลกแห่งสหประชาชาติ หรือ ยูเอ็น โกลบอล คอมแพค เป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล รวมทั้งเป็นบริษัทอาหารแห่งแรกบริษัทฯ เดียวของประเทศไทยได้รับการคัดเลือกเป็นสมาชิกในกลุ่มดัชนีความยั่งยืนของดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) ประจำปี 2557 ในกลุ่มดัชนี DJSI Emerging Markets หมวดอุตสาหกรรมอาหาร

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับทียูเอฟ สามารถดูได้ที่ www.thaiuniongroup.com

ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่: บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน)

ศศินันท์ ออลแมนด์ ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร (Head of Corporate Communications)

โทรศัพท์: +66 (0)2 298 0024 ต่อ 568

โทรสาร: +66 (0)2 298 0024 ต่อ 677

อีเมล์ : sasinan_al@thaiunion.co.th