ไทยยูเนี่ยนเข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ ของบริษัท รูเก้น ฟิช (Rügen Fisch) ผู้นำอาหารทะเลกระป๋องในประเทศเยอรมนี

21 ธันวาคม 2558 , กรุงเทพฯ – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (TU) ผู้ผลิตและแปรรูปปลาทูน่ากระป๋องรายใหญ่ที่สุดของโลก และยังเป็นเจ้าของแบรนด์อาหารทะเลชั้นนำทั่วโลก ประกาศวันนี้ว่าทางบริษัทได้ทำสัญญาซื้อหุ้นส่วนใหญ่ของ “บริษัท รูเก้น ฟิช” (Rügen Fisch AG) ผู้นำตลาดอาหารทะเลกระป๋องในประเทศเยอรมนี พร้อมแบรนด์ฮาเว็สต้า (Hawesta) โดยบริษัทยังคงให้ความไว้วางใจให้ทีมผู้บริหารที่เป็นผู้ถือหุ้นเดิมบริหาร กิจการร่วมกันกับทีมผู้บริหารของไทยยูเนี่ยนต่อไป ทั้งนี้บริษัทมีกำหนดจะดำเนินการเข้าซื้อหุ้นให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือน มกราคม 2559 ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับขั้นตอนการซื้อขายหุ้นในประเทศเยอรมันนี

รูเก้น ฟิช มีสำนักงานใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเยอรมนี และล่าสุดมีผลประกอบการสูงกว่า 140 ล้านยูโร หรือประมาณกว่า 5,600 ล้านบาท โดยมีผลิตภัณฑ์หลักคือปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแม็คเคอเรล และ ปลาแซลมอน ทั้งแบบสดและแช่เย็น จัดจำหน่ายไปยังห้างค้าปลีกชั้นนำทั่วประเทศเยอรมนีภายใต้แบรนด์หลักอย่างรู เก้น ฟิช (Rügen Fisch) ฮาเวสต้า (Hawesta) อ็อสต์เซย์ฟิช (Ostsee Fisch) ไลเซลล์ (Lysell) และแบรนด์โออีเอ็มอีกมากมาย ปัจจุบันรูเก้นฟิชมีพนักงานกว่า 850 คนกระจายอยู่ในโรงงานที่ทันสมัยที่สุดถึงสามแห่งในประเทศเยอรมนีและ ลิธัวเนีย

ด้านนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ประเทศเยอรมนีนับเป็นตลาดอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป และเป็นหนึ่งในตลาดยุทธศาสตร์ที่สำคัญของเราในยุโรป การเป็นหุ้นส่วนกับรูเก้น ฟิช จะส่งผลให้ ไทยยูเนี่ยนกลายเป็นผู้นำตลาดในเยอรมนี และช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการเป็นผู้นำอาหารทะเลในยุโรปของไทยยูเนี่ย นยิ่งขึ้นไปต่อไป

การเข้าควบซื้อกิจการในครั้งนี้ มีประโยชน์เชิงยุทธศาสตร์สำหรับไทยยูเนี่ยน เนื่องจากในประเทศเยอรมนี ปลาทูน่านับเป็นเซ็กเม้นท์ของตลาดอาหารทะเลที่มีการเติบโตมากที่สุด และยังมีศักยภาพในการเติบโตได้อีกมาก ทั้งยังเป็นการผนึกกำลังกับแบรนด์อื่นๆ ของไทยยูเนี่ยนได้แก่ คิง ออสก้าร์ (King Oscar) และ เมอร์อไลอันซ์ (Meralliance) ซึ่งจะเกิดขึ้นได้เมื่อเราได้ผนึกกำลังทางการตลาดของรูเก้น ฟิช กับ ความเชี่ยวชาญในการแปรรูปปลาทูน่าของไทยยูเนี่ยน

ผมมั่นใจในศักยภาพความสามารถการบริหารของผู้ถือหุ้นและผู้บริหารชุด ปัจจุบัน ซึ่งนำโดย มร. แอนดริว เบิร์กมานน์ (Andrew Bergmann) และจะสามารถทำงานร่วมกันได้เป็นอย่างดีเพื่อขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้าด้วย กัน การผนึกกำลังกันและความเชี่ยวชาญระดับโลกของไทยยูเนี่ยน จะช่วยให้เราบรรลุเป้าหมายหลักในปี 2563 ที่ตั้งไว้”

มร. เบอร์โธลด์ บริ๊งค์มานน์ (Mr. Berthold Brinkmann) ประธานคณะกรรมการที่ปรึกษาบริษัทรูเก้น ฟิช (Rügen Fisch AG) กล่าวเสริมว่า “รูเก้น ฟิช เป็นที่รู้จักกันอย่างดีและเป็นแบรนด์ที่มีความแข็งแกร่งและมีประวัติความ เป็นมาอันยาวนาน เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับสากลของเรา ตลอดจนโรงงานผลิตที่ทันสมัย และระบบเครือข่ายการจัดจำหน่ายสินค้าที่ครอบคลุมพื้นที่การขายปลีกส่วนใหญ่ ในประเทศเยอรมนี ทำให้เราเป็นหุ้นส่วนที่เหมาะสมอย่างยิ่งกับไทยยูเนี่ยน เราจะสามารถสร้างพันธมิตรด้านกลยุทธ์ที่จะช่วยสร้างฐานนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ปลา ทูน่าในตลาดเยอรมันนี

นอกเหนือจากนี้ การร่วมมือกับไทยยูเนี่ยนยังช่วยให้เราได้ลงทุนเพิ่มอย่างมีนัยสำคัญเพื่อ ขยายประเภทของสินค้าให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้บริโภค และส่งผลให้กิจการของรูเก้น ฟิช เติบโตได้เป็นอย่างดีทั้งตลาดในประเทศและตลาดต่างประเทศ”

ไทยยูเนี่ยน ได้รับการแนะนำการเข้าซื้อหุ้นในครั้งนี้โดยบริษัทฮูลิแฮน โลคีย์ (Houlihan Lokey) และบริษัทที่ปรึกษาทางกฎหมายคลิฟฟอร์ดแช็นซ์ (Clifford Chance) โดยมิสเกวนโดลิน มุลเลอร์ (Gwendolyn Mueller) และบริษัท รูเก้น ฟิช (Rügen Fisch AG) มีบริษัทเฮแร็กซ์ พาร์ทเนอร์ส (Herax Partners) เป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการดำเนินการในครั้งนี้