ไทยยูเนี่ยนเสริมทัพธุรกิจส่วนประกอบอาหาร เดินหน้าลงทุนใน มาร่า รีนิวเอเบิลส์ บริษัทชั้นนำด้านการผลิตส่วนประกอบอาหารจากสาหร่ายไมโครแอลจี

กรุงเทพมหานคร – 18 พฤษภาคม 2565บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศลงทุน 10 ล้านเหรียญแคนาดา ในบริษัท มาร่า รีนิวเอเบิลส์ คอร์ปอเรชั่น ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในรอบการระดมทุนจำนวน 39.5 ล้านเหรียญแคนาดา ที่มาร่า จัดขึ้น โดยไทยยูเนี่ยนและบริษัทชั้นนำอื่นๆ ได้ร่วมลงทุนเพื่อเร่งการขยายธุรกิจให้กับมาร่า ผู้ผลิตส่วนประกอบอาหารจากสาหร่ายไมโครแอลจีด้วยนวัตกรรมที่โดดเด่นเฉพาะตัว จากการลงทุนครั้งนี้ ไทยยูเนี่ยนจะมีสิทธิส่งตัวแทนบริษัทหนึ่งท่านเข้าเป็นกรรมการบริษัท มาร่า

 

เครดิตภาพ: มาร่า รีนิวเอเบิลส์

บริษัท มาร่า รีนิวเอเบิลส์ คอร์ปอเรชั่น มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่รัฐโนวา สโกเทีย ประเทศแคนาดา และเป็นหนึ่งในบริษัทผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ชีวภาพจากสาหร่ายที่มีการเพาะเลี้ยงขึ้นอย่างยั่งยืน นับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทขึ้นในปี 2555 มาร่า ประสบความสำเร็จในการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสาหร่ายไมโครแอลจี ที่ได้ถูกนำมาผ่านกระบวนการสกัดที่สะอาดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม จนกลายเป็นน้ำมันสาหร่ายคุณภาพสูง

น้ำมันที่สกัดจากพืชนี้ ไม่มีการตกแต่งทางพันธุกรรม และเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่รับประทานมังสวิรัติที่ต้องการกรดไขมันดีเอชเอ โอเมก้า 3 โดยผลิตภัณฑ์ของมาร่า ได้รับการรับรองจากหน่วยงานและองค์กรกำกับดูแลต่างๆ ที่น่าเชื่อถือ นอกจากนี้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวยังถูกนำไปใช้โดยผู้ผลิตสารอาหารสำหรับเด็กทารก อาหารเสริม อาหารและเครื่องดื่มชั้นนำทั่วโลก

ไทยยูเนี่ยนมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาส่วนประกอบอาหารอย่างยั่งยืนเช่นเดียวกับมาร่า ในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้เข้าสู่ธุรกิจส่วนประกอบอาหาร เพื่อเปลี่ยนวัตถุดิบปลาที่เหลือจากกระบวนการผลิต เป็นส่วนประกอบอาหารที่ใช้ในผลิตภัณฑ์อาหารของคน โดยผลิตน้ำมันปลาทูน่าคุณภาพเยี่ยมจากวัตถุดิบหัวปลาทูน่าที่ยังไม่ผ่านความร้อน ผ่านกระบวนการสกัดด้วยอุณหภูมิต่ำ ที่จะช่วยรักษาคุณค่าของน้ำมันตามธรรมชาติเอาไว้ได้ น้ำมันปลาทูน่าจากไทยยูเนี่ยนมีกรดไขมันดีเอชเอโอเมก้า 3 สูงที่สุดเมื่อเทียบกับน้ำมันปลาที่ผลิตจากปลาชนิดอื่นๆ

ไทยยูเนี่ยนและมาร่าจะร่วมกันสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับตลาดกรดไขมันโอเมก้า 3 ทั้งที่ผลิตจากปลาทูน่าและสาหร่าย การลงทุนในครั้งนี้จะสร้างโอกาสทางธุรกิจให้กับทั้งสองบริษัท และเร่งการเติบโตผ่านความร่วมมือในการทำตลาด วิจัยและพัฒนา และการผลิต เช่น มาร่า กำลังดูความเป็นไปได้ในการกลั่นน้ำมันจากสาหร่ายที่โรงกลั่นของไทยยูเนี่ยนในเมืองรอสต็อค ทางตอนเหนือของประเทศเยอรมัน นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้ร่วมงานกับมาร่าในการวิจัยและพัฒนาที่ศูนย์วิจัยและพัฒนาน้ำมันโอเมก้า 3 ของไทยยูเนี่ยนที่จังหวัดสมุทรสาคร โดยได้ทดลองใช้น้ำมันสาหร่ายของมาร่า ทั้งนี้เพื่อตอบโจทย์ความต้องการผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยโอเมก้า 3 ที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ในฐานะผู้นำอุตสาหกรรมอาหาร ทั้งในด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน ไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นพัฒนาธุรกิจส่วนประกอบอาหารที่จะเพิ่มมูลค่าให้กับวัตถุดิบของเราให้กลายเป็นผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ เช่น น้ำมันปลาทูน่าที่มีดีเอชเอในปริมาณที่สูง การร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับมาร่า ในครั้งนี้จะช่วยสร้างโอกาสในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่างๆ ของเราให้หลากหลายยิ่งขึ้น รวมถึงขยายตลาดไปทั่วโลก เพื่อผลิตส่วนประกอบอาหาร กรดไขมันโอเมก้า 3 ที่มีคุณค่าทางโภชนาการและถูกผลิตอย่างยั่งยืนให้กับผู้บริโภคทั่วโลก”

นายอาร์ทูโร อาเนีย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาร่า กล่าวว่า “มาร่า ยินดีและตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกับไทยยูเนี่ยน ทั้งมาร่าและไทยยูเนี่ยนดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับท้องทะเล ให้ความสำคัญกับโภชนาการตามหลักวิทยาศาสตร์ และมีวิสัยทัศน์ในการสร้างระบบอาหารที่ยั่งยืนขึ้น ไทยยูเนี่ยน ในฐานะผู้นำธุรกิจอาหารสำหรับคนและสัตว์เลี้ยงระดับโลกที่พร้อมร่วมมือกับทุกภาคส่วนนั้น สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ของมาร่าในการสร้างสรรค์สิ่งที่ดี ผ่านผลิตภัณฑ์และทีมงานที่พร้อมเดินหน้าสู่เป้าหมายของเรา”

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ®BONE และ UniQ®DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

เกี่ยวกับ มาร่า รีนิวเอเบิลส์

บริษัท มาร่า รีนิวเอเบิลส์ คอร์ปอเรชั่น เป็นผู้ผลิตส่วนประกอบอาหารที่ผลิตจากพืชที่มีสารอาหารที่ดีต่อสุขภาพ บริษัทมีสำนักงานทั้งในประเทศแคนาดาและสหราชอาณาจักร โดยมีสำนักงานใหญ่ที่เมืองดาร์ธมัธ รัฐโนวา สโกเทีย ประเทศแคนาดา บริษัทก่อตั้งในปี 2555 และมีผลิตภัณฑ์หลากหลายด้วยเทคโนโลยีที่จดสิทธิบัตรของบริษัท และความเชี่ยวชาญในการผลิตโอเมก้า 3 คุณภาพสูงจากสาหร่าย นอกจากนี้ยังมีความชำนาญทางวิศวกรรมเพื่อผลิตเชิงพาณิชย์ และมีบริษัทคู่ค่าเป็นบริษัทและแบรนด์ด้านสุขภาพต่างๆ ทั่วโลกที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน พันธกิจของบริษัทคือ การสร้างอนาคตที่ยั่งยืนด้วยอาหารที่ผลิตจากพืชด้วยเทคโนโลยี และความมั่นคงด้านสุขภาพให้กับผู้คนทั่วโลก

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม

วิริยาภรณ์ โปษยานนท์ โทร +66 99 154 1254 อีเมล์ Wiriyaporn.Posayanonda@thaiunion.com