ไทยยูเนี่ยน เผยแพร่วิดีโอรณรงค์ชุดใหม่ เน้นถึงปัญหาพลาสติกและขยะในทะเลของประเทศไทย

 บรรยายภาพ: ไทยยูเนี่ยนเผยแพร่วิดีโอรณรงค์ชุดใหม่ เน้นถึงปัญหาพลาสติกและขยะในทะเล เพื่อช่วยสร้างให้เกิดความตระหนักถึงประเด็นปัญหานี้ โดยวิดีโอชุดนี้สามารถใช้เพื่อการศึกษา และไทยยูเนี่ยนพร้อมที่จะให้สถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์การนอกภาครัฐในประเทศไทยนำวิดีโอนี้ไปช่วยเผยแพร่ทั้งชุดภาษาไทยและภาษาอังกฤษโดยไม่มีค่าใช้จ่าย

21 สิงหาคม 2561, กรุงเทพ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัววิดีโอที่เน้นให้เห็นถึงปัญหาพลาสติกและขยะทะเลในประเทศไทย โดยพยายามกระตุ้นและสร้างให้เกิดความตระหนักเพื่อให้แน่ใจว่าท้องทะเลจะมีความยั่งยืนสำหรับคนรุ่นใหม่ในอนาคต

วิดีโอชุดนี้ ชี้ให้เห็นถึงวิธีการปฏิบัติเพียงแค่เล็กน้อยในชีวิตประจำวันของเรา จะสามารถสร้างการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมีนัยสำคัญ เพื่อช่วยปกป้องชีวิตสัตว์น้ำที่มีค่าในโลกได้ ทั้งนี้ มีสัตว์น้ำที่เลี้ยงลูกด้วยนมราว 100,000 ตัวเสียชีวิตทุกปีจากขยะพลาสติก นกทะเล เต่า ปลาโลมา และสัตว์อื่นๆ มักเข้าใจผิดว่า ถุงพลาสติกขนาดใหญ่ในทะเลคืออาหารซึ่งนักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า ในช่วงชีวิตของวาฬและปลาโลมาจะมีหนึ่งตัวในทุก 10 ตัวที่กินพลาสติกเพราะความเข้าใจผิด ผลกระทบที่เลวร้ายของพลาสติกและขยะในทะเลได้ถูกหยิบยกขึ้นมาหลังจากที่การตายของวาฬนำร่องในประเทศไทยได้พบถุงพลาสติกจำนวน 80 ใบ และพลาสติกชนิดอื่นๆ อีกอยู่ในท้องของมัน ซึ่งมีน้ำหนักถึง 8 กิโลกรัม

“ไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นที่จะต่อต้านมลภาวะจากพลาสติกในทะเล ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์ด้านความยั่งยืนของเรา หรือ SeaChange® ที่มุ่งขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก” ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนไทยยูเนี่ยน กล่าว “สำหรับวิดีโอชุดนี้ เราไม่ได้หวังเพียงแค่สร้างความตระหนักในประเด็นเหล่านี้ แต่เราต้องการให้ผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ มาทำงานร่วมกับเรา เพื่อให้เกิดความมั่นใจว่าทะเลของเราจะมีความยั่งยืนสำหรับคนรุ่นต่อไปในอนาคต

ส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นที่แสดงให้เห็นถึงคือ เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยยูเนี่ยนได้เข้าร่วมในโครงการ Global Ghost Gear Initiative (GGGI) เพื่อสนับสนุนการแก้ปัญหาในเรื่องการลดขยะพลาสติก และลดซากอุปกรณ์ประมง การสูญเสีย หรือการทิ้งอุปกรณ์ประมงลงทะเลทั่วโลก  GGGI เป็นโครงการความร่วมมือซึ่งจัดตั้งโดยองค์กรพิทักษ์สัตว์แห่งโลก รวมถึงผู้แทนจากหลายฝ่ายเช่น อุตสาหกรรมประมง ภาคเอกชน นักวิชาการ ภาครัฐ องค์กรระหว่างประเทศ และองค์การนอกภาครัฐ

“สำหรับบุคคลทั่วไป เราก็สามารถช่วยจัดการกับขยะพลาสติกได้เช่นกัน ด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ ในชีวิตประจำวันของเราโดยการปฏิบัติตามหลัก 3 R’s คือ ลดการใช้ การใช้ซ้ำ และการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่” ดร. แดเรี่ยน กล่าว “การลดปริมาณพลาสติกที่เราใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้วัสดุพลาสติกซ้ำเท่าที่จะทำได้ และเมื่อต้องทิ้งพลาสติกเหล่านั้น ให้ทิ้งลงถังสำหรับการแปรรูปนำกลับมาใช้ใหม่ให้ถูกต้องอย่างมีความรับผิดชอบ ด้วยสิ่งเหล่านี้ เราสามารถก่อให้เกิดผลลัพธ์ได้อย่างมีนัยสำคัญ

วิดีโอรณรงค์ชุดนี้ สามารถรับชมได้ที่ ช่องยูทูปของไทยยูเนี่ยน ตามลิงค์ด้านล่าง

เนื่องจากวิดีโอชุดนี้สามารถใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ ไทยยูเนี่ยนพร้อมที่จะให้สถาบันการศึกษาต่างๆ หรือองค์การนอกภาครัฐนำวิดีโอชุดนี้ไปเผยแพร่โดยไม่มีค่าใช้จ่าย โดยติดต่อมายังฝ่ายสื่อสารองค์กรของไทยยูเนี่ยนที่อีเมล์ TU_PR_OFFICE@thaiunion.com

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.35 แสนล้านบาท (4.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 49,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว จนส่งผลโดยรวมให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2560 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณวิสาขา จันทกิจ
บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
มือถือ: +66.81.845.7316
อีเมล: Wisaka.Chantakit@thaiunion.com