ไทยยูเนี่ยนขึ้นเวทีแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน ในงานเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย

บรรยายภาพ: นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) แลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์เกี่ยวกับบทบาทความสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืนที่มีต่อธุรกิจ

4 ธันวาคม 2561, กรุงเทพฯ - บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) โดยนายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ได้ร่วมแลกเปลี่ยนแนวคิดและประสบการณ์บนเวทีเสวนาในหัวข้อ “เอกชนไทยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง...เราจะเติบโตไปด้วยกัน” พร้อมกับผู้บริหารจากบริษัท เรย์วิสาหกิจเพื่อสังคม จำกัด และบริษัทชั้นนำในประเทศไทยได้แก่ โฮมโปร เอไอเอส และไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ณ งานเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทย

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ไทยยูเนี่ยนทำงานด้านความยั่งยืนมาเป็นเวลาหลายปี นอกเหนือจากการปฏิบัติตามกฎระเบียบสากลแล้ว เรายังมีเป้าหมายในการเป็นผู้นำอุตสาหกรรม ความยั่งยืนไม่ใช่แค่กระแสเท่านั้น แต่จะกลายเป็นข้อได้เปรียบทางธุรกิจ เราเข้าใจเป็นอย่างดีว่า การดำเนินนโยบายความยั่งยืนตามกลยุทธ์ SeaChange® ทำให้เรามีโอกาสทางธุรกิจให้กับผู้บริโภคและตลาดที่ให้ความสำคัญกับเรื่องนี้ และเมื่อเราตัดสินใจจะทำงานด้านความยั่งยืนแล้ว เราต้องทำอย่างเต็มที่ให้ได้ตามมาตรฐาน”

งานเปิดตัวเครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทยนี้ได้รับเกียรติจากนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ให้เกียรติเปิดงานและแสดงปาฐกถาพิเศษ โดยได้เน้นย้ำถึงความร่วมมือกันระหว่างภาครัฐและเอกชนในการช่วยกันผลักดันเศรษฐกิจไปพร้อมกับการบรรลุเป้าหมายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนของสหประชาชาติ

เครือข่ายเพื่อความยั่งยืนแห่งประเทศไทยนี้ร่วมก่อตั้งโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็คประเทศไทย ตลอดจนองค์กรชั้นนำอื่นๆ ในตลาดทุน โดยมีเป้าหมายขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นในภาคธุรกิจและบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ใน 3 ประเด็นสำคัญ ได้แก่ การปล่อยก๊าซคาร์บอนต่ำ การเปิดโอกาสอย่างทั่วถึง และการีธรรมาภิบาล

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.33 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index ในปี 2561 อีกด้วย