คิงออสการ์ฉลอง 120 ปี ตำนานราชาแห่งอาหารทะเล

แบรนด์อาหารทะเลพรีเมี่ยมสัญชาตินอร์เวย์ฉลอง 120 ปี พร้อมเดินหน้าธุรกิจผลิตอาหารทะเลคุณภาพเยี่ยมระดับโลก

นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

King Oscar sells over 200 King Oscar specialty seafood products in 29 countries on six continents.

In 1902, King Oscar II of Norway gave the company his name – by Royal Permission, a status the company still enjoys today.

กรุงเทพมหานคร – 24 พฤศจิกายน 2565 – คิงออสการ์ แบรนด์อาหารทะเลระดับตำนานจากประเทศนอร์เวย์ ประกาศฉลองครบรอบ 120 ปี ในวันที่ 29 พฤศจิกายน 2565

คิงออสการ์ยังคงสืบสานตำนานราชาแห่งอาหารทะเลที่ได้รับพระราชทานนามตามกษัตริย์แห่งนอร์เวย์ในอดีต โดยมุ่งมั่นผลิตอาหารทะเลทุกชิ้นด้วยคุณภาพและรสชาติเป็นเลิศ ในปี 2445 สมเด็จพระเจ้าออสการ์ที่ 2 กษัตริย์แห่งนอร์เวย์ได้ทรงลองเสวยปลาซาร์ดีนปรุงรสกระป๋องจากบริษัท นอร์วิเจียน สตาเวนเจอร์ พรีเสิร์ฟวิ่ง ทรงโปรดเสวยมากจนพระราชทานนามของพระองค์เป็นชื่อบริษัท ซึ่งคิงออสการ์ยังคงใช้เป็นชื่อแบรนด์จวบจนถึงปัจจุบัน

คิงออสการ์ยังคงผลิตบริสลิ่งซาร์ดีน หรือปลาซาร์ดีนปรุงรสที่จับตามธรรมชาติ ที่ถวายแด่กษัตริย์แห่งนอร์เวย์ในปี 2445 และยังคงคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ด้วยนวัตกรรมที่เปลี่ยนโฉมหน้าอุตสาหกรรม แต่ยังคงความอร่อยในแบบฉบับของคิงออสการ์ไว้อย่างครบถ้วน

ปัจจุบัน แม้จะผ่านมาเป็นระยะเวลา 120 ปีแล้ว ผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์คิงออสการ์มากกว่า 200 รายการยังคงวางจำหน่ายในกว่า 29 ประเทศ 6 ทวีปทั่วโลก ด้วยคุณภาพที่เป็นที่ชื่นชอบของผู้บริโภค และนับตั้งแต่ไทยยูเนี่ยนได้เข้าบริหารกิจการในปี 2557 คิงออสการ์ได้ขยายธุรกิจและมีสินค้าวางจำหน่ายทั่วโลกเพิ่มขึ้นเท่าตัวมากกว่า 3,700 ล้านบาท

ในประเทศไทย มีการวางจำหน่ายผลิตภัณฑ์คิงออสการ์มากกว่า 13 รายการ และเป็นผู้นำสินค้าปลากระป๋องในกลุ่มพรีเมี่ยม โดยสินค้าที่ขายดีที่สุดได้แก่ ปลาบริสลิ่งซาร์ดีนในน้ำมันมะกอกบริสุทธิ์ ในปี 2564 คิงออสการ์ได้เปิดตัวสินค้ากลุ่มรอยัลแมคเคอเรลในตลาดประเทศไทย และล่าสุดในปีนี้ ได้เปิดตัวสินค้าใหม่ 2 ชนิดคือ รอยัลแมคเคอเรลในน้ำมันมะกอก และนอร์วีเจียนค็อดลิเวอร์ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากผู้บริโภคคิงออสการ์ยังคงยึดมั่นในคุณภาพชั้นเยี่ยมของสินค้ามาโดยตลอด

นายศรัณย์ รัตนรุ่งเรืองชัย ผู้จัดการทั่วไป บริหารกลุ่มตลาดเกิดใหม่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “คิงออสการ์มีประวัติศาสตร์อันยาวนาน และเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภคทั่วโลกในฐานะแบรนด์อาหารทะเลชั้นนำจากประเทศนอร์เวย์ สำหรับประเทศไทย แบรนด์คิงออสการ์เติบโตในกลุ่มสินค้าพรีเมี่ยม ซึ่งเราได้วางแผนที่จะเติบโตในปี 2566 และปีต่อๆ ไปอีกนับร้อยปี เพื่อให้ผู้บริโภคชาวไทยได้สัมผัสกับอาหารทะเลระดับพรีเมี่ยมจากประเทศนอร์เวย์ครับ”

###

เกี่ยวกับคิงออสการ์
คิงออสการ์เป็นผู้ผลิตอาหารทะเลบรรจุกระป๋องระดับพรีเมี่ยมที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลก บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2445 และเป็นที่รู้จักในฐานะผู้ผลิตปลาบริสลิ่งซาร์ดีนรสเลิศ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีก อาทิ ปลาซาร์ดีนไรหนังและก้าง ปลาแมคเคอเรล ปลาเฮอร์ริ่ง ปลาแองโชวี่ ตับปลาคอดและอื่น ๆ บริษัทตั้งอยู่ที่เมืองเบอร์เจน ประเทศนอร์เวย์
kingoscar.com

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, Hawesta และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ®BONE และ UniQ®DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita

ไทยยูเนี่ยนมีเป้าหมายเพื่อสร้าง "การมีสุขภาพที่ดี และท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์, Healthy Living, Healthy Oceans" โดยให้ความสำคัญกับสุขภาพผู้คน ควบคู่ไปกับการอนุรักษ์ท้องทะเล เราภาคภูมิใจในการเป็นส่วนหนึ่งของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) พร้อมทั้งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) และได้รับเกียรติเป็นเป็นประธาน SeaBOS หรือ Seafood Business for Ocean Stewardship ไทยยูเนี่ยนดำเนินงานด้านความยั่งยืนโดยยึดหลักกลยุทธ์ SeaChange® ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ จากผลการประเมินงานด้านความยั่งยืนปี 2564 บริษัทได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices: DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่เป็นปีที่ 8 ปีติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน

สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทำงานด้านความยั่งยืนของบริษัทได้ที่ seachangesustainability.org