ไทยยูเนี่ยนตั้ง ไอ-เทล อเมริกา ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านเหรียญ

ปรับทัพการลงทุนธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงรองรับการเติบโตทั่วโลก

กรุงเทพฯ — 4 มกราคม 2565 — บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทในเครือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้จัดตั้ง บริษัท i-Tail Americas, Inc. ขึ้นในประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยทุนจดทะเบียน 5 ล้านเหรียญสหรัฐหรือกว่า 167 ล้านบาท โดยบริษัทที่ตั้งขึ้นใหม่นี้จะเข้าซื้อบริษัท US Pet Nutrition LLC. (USPN) ซึ่งดำเนินธุรกิจขายและกระจายสินค้าในส่วนธุรกิจผลิตภัณฑ์อาหารสัตว์เลี้ยงในสหรัฐอเมริกา จากบริษัท ไทยยูเนี่ยน อเมริกาเหนือ

การลงทุนครั้งนี้นับเป็นอีกก้าวสำคัญสำหรับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยูเนี่ยน ภายหลังจากบริษัทได้ประกาศเปิดตัว บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น ในปีที่ผ่านมาเพื่อรองรับการพัฒนาและขยายกิจการในกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

นายรอย ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด

นายรอย ชาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด ในเครือไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า “ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยูเนี่ยนเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปีที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดทำให้ผู้คนทั่วโลกใช้เวลาที่บ้านกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น รวมถึงใช้จ่ายในการดูแลสัตว์เลี้ยงมากขึ้นด้วย การจัดตั้งบริษัทใหม่ในครั้งนี้จะเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารจัดการกลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงเพื่อการเติบโตทั้งในประเทศและทั่วโลก ไอ-เทลยังคงมุ่งมั่นในการพัฒนาธุรกิจและผลิตภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม โดยมีศูนย์นวัตกรรมไทยยูเนี่ยนและ Global PetCare Innovation ที่ร่วมตอบโจทย์เป้าหมายในการสร้างสุขภาพที่ดีและอายุขัยที่ยืนยาวให้กับสัตว์เลี้ยง”

บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 100 ของหุ้นทั้งหมดในบริษัท i-Tail Americas, Inc.

เกี่ยวกับไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าที่เก็บไว้ได้นานที่สุด โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 132.4 พันล้านบาท (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAvita.

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน