ไทยยูเนี่ยน แสดงความยินดีต่อรายงานความคืบหน้าของเนสท์เล่


กรุงเทพฯ – 23 มีนาคม 2559 - วันนี้บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้แสดงความชื่นชมต่อการเปิดเผยรายงานของบริษัท เนสท์เล่ ว่าด้วยความคืบหน้าในการขจัดปัญหาแรงงาน และการละเมิดสิทธิมนุษยชนในห่วงโซ่อุปทานอาหารทะเล

ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืน ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป กล่าวว่า “เราขอแสดงความยินดีต่อเนสท์เล่ สำหรับทั้งการริเริ่มและความคืบหน้าที่เกิดขึ้น ซึ่งเราเชื่อว่าความพยายามร่วมกันของทุกฝ่ายเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการสร้างผล สัมฤทธิ์ร่วมกันในการทำให้การค้ามนุษย์เป็นสิ่งที่ไม่คุ้มค่าในเชิงเศรษฐกิจ สำหรับผู้ที่ยังฝ่าฝืนทำอยู่”

ทั้งนี้ ดร. แดเรี่ยน ได้กล่าวด้วยว่า ไทยยูเนี่ยนเห็นด้วยกับเนสท์เล่ในการใช้ระบบการตรวจสอบย้อนกลับ (traceability) ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญยิ่งในการขจัดการละเมิดสิทธิแรงงานในห่วงโซ่อุปทานอาหาร ทะเล

“ไทยยูเนี่ยนมีระบบที่สามารถแสดงผลการตรวจสอบย้อนกลับได้ทั้งกระบวนการ ตั้งแต่แหล่งที่จับสัตว์น้ำไปจนถึงการบริโภค และสำหรับคู่ค้าในประเทศไทยที่จัดหาวัตถุดิบให้กับไทยยูเนี่ยน จะต้องแสดงใบรับรองการจับสัตว์น้ำ รวมไปถึงรายละเอียดของเรือประมงที่ใช้ รายละเอียดของลูกเรือ และบันทึกการทำประมง นอกเหนือนี้ หากคู่ค้ารายใดที่ละเมิดนโยบายด้านการบังคับใช้แรงงาน การใช้แรงงานเด็ก หรือการค้ามนุษย์ ซึ่งระบุไว้อย่างชัดเจนในแนวปฏิบัติด้านแรงงาน (Code of Conduct) ที่เข้มงวดของเรา จะถูกยุติสัญญาทันที ซึ่งข้อกำหนดเหล่านี้ส่งผลให้เราสามารถประเมินการตรวจสอบย้อนกลับ รวมถึงสภาพการทำงานบนเรือประมงทั้งหมด 270 ลำที่จัดหาปลาให้กับห่วงโซ่อุปทานของเนสท์เล่”

ดร. แดเรี่ยน ยังแสดงความชื่นชมกับเนสท์เล่ ที่ได้ร่วมทำงานกับสถาบันอิสสรา

“งานของเราที่ทำร่วมกับสถาบันอิสสราว่า 12 เดือนที่ผ่านมา มีการขยายความร่วมมืออย่างมาก จนกลายเป็นความร่วมมือระดับภูมิภาค และครอบคลุมงานที่หลากหลาย โดยในปีนี้เราจะขยายบริการสายด่วนสำหรับแรงงาน จากเดิม 4 แห่งเป็นครอบคลุมทุกโรงงานของเรา และท่าเรือที่ไทยยูเนี่ยนใช้งาน นอกจากนี้เรายังสนับสนุนการพัฒนาแอปพลิเคชั่นโทรศัพท์มือถือร่วมกับสถาบัน อิสสรา เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่แรงงานสำหรับการสื่อสาร รวมถึงการมีส่วนร่วมในคณะทำงานเพื่อปรับปรุงสภาพการทำงานของแรงงานข้ามชาติ และทำการหารือกับคู่ค้าของไทยยูเนี่ยน เกี่ยวกับความเสี่ยงต่างๆ ด้านแรงงาน การมีคู่ค้าในอุตสาหกรรมเดียวกันให้ความร่วมมือเป็นจำนวนมากกับสถาบันอิสสรา ซึ่งมีความน่าเชื่อถือ จะยิ่งเป็นประโยชน์แก่แรงงาน และอุตสาหกรรมของเราในภาพรวมมากขึ้น”

“ดร. แดเรี่ยน ยังได้แสดงความยินดีกับการริเริ่มโครงการ “เรือสาธิต” ของรัฐบาลไทย ซึ่งนำโดยกรมประมง เพื่อเป็นหน่วยเคลื่อนที่สำหรับให้การอบรมการปฏิบัติด้านแรงงานบนเรือประมง ที่ถูกต้อง ทั้งนี้ไทยยูเนี่ยนและเนสท์เล่จะร่วมกันสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการปรับปรุง เรือสำหรับการจัดอบรมดังกล่าวที่ท่าเรือ และตลาดปลาทั่วประเทศไทย เพื่อให้ไต๋เรือและลูกเรือ มีความเข้าใจและปฏิบัติตามกฎระเบียบข้อบังคับด้านแรงงานทั้งของไทยและสากล ”

“โครงการนี้มีวิสัยทัศน์ที่ยาวไกลและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะการให้การอบรมแก่ผู้ที่จะได้ประโยชน์สูงสุดจากองค์ความรู้นี้”