ทียูเอฟ เปิดศูนย์ "TUF CHILD CARE CENTER" แห่งที่ 2 ตั้งงบประมาณกว่า 10 ล้านบาทวางแผนเปิดให้ครบ 5 แห่งภายใน 2 ปี มุ่งเน้นด้านการศึกษาและคุณภาพชีวิตเด็ก

บรรยายใต้ภาพ(จากซ้ายไปขวา):คุณฤทธิรงค์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการ ทียูเอฟ ร้อยตำรวจโท อาทิตย์ บุญญะโสภัต ผู้ว่าราชการจังหวัดสมุทรสาคร คุณธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารทียูเอฟ คุณสมพงษ์ สระแก้ว ผู้อำนวยการ มูลนิธิเครีอข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน

เมื่อเร็วๆ นี้,กรุงเทพฯ- บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ผู้นำและเชี่ยวชาญด้านอาหารทะเล และเจ้าของแบรนด์ชั้นนำระดับโลก สร้างโอกาสทางการศึกษาอีกครั้ง โดยการเปิด "TUF Child Care Center"แห่งที่สองณ โรงเรียนวัดศิริมงคล จังหวัดสมุทรสาครเพื่อมอบพื้นฐานทางการศึกษาและเตรียมความพร้อมให้แก่เด็กไทย และเด็กข้ามชาติ ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครอย่างเท่าเทียมกัน ก่อนเข้าสู่ระบบการศึกษาไทย

"TUF Child Care Center"หรือ "ศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กก่อนวัยเรียน" เริ่มขึ้นจากการนำหลักปรัชญาด้านความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจซึ่งประกอบด้วย "We Can, We Care, We Connect"มาสู่ภาคปฏิบัติอย่างแท้จริง บนแนวคิดที่ว่า "การนำศักยภาพทางธุรกิจของบริษัทที่มีอยู่เข้ามาช่วยส่งเสริมพัฒนาด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืนของสังคมไทยในภาพรวม"

ความยั่งยืนที่แท้จริงจะเกิดขึ้นได้ ต้องมาจากความร่วมมือของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง ซึ่ง TUF Child Care Center ก็เช่นเดียวกัน เป็นโครงการที่ดำเนินงานร่วมกันระหว่างบริษัท มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) และโรงเรียนนำร่อง 2 โรงเรียนในจังหวัดสมุทรสาคร ด้วยเป้าหมายร่วมกัน คือ การคุ้มครองและดูแลบุตรหลานของทั้งแรงงานไทยและข้ามชาติตามหลักมนุษยชน โดย TUF Child Care Center แห่งแรกตั้งขึ้นในปี 2556 ที่โรงเรียนวัดศรีสุทธาราม ซึ่งมีเด็กเข้ามารับการศึกษาในศูนย์ฯ แล้วกว่า 200 คนและปีนี้ได้มีการจัดตั้งศูนย์ฯ ที่ 2 ขึ้นที่โรงเรียนวัดศิริมงคล เพื่อขยายโอกาสทางการศึกษาให้กับเด็กที่ขาดโอกาสเหล่านี้โดยเรามีแผนที่จะดำเนินการจัดตั้งศูนย์ฯ ทั้งหมด 5 แห่ง ในระยะเวลา 5 ปี เพื่อเป็นโครงการนำร่องที่จะรองรับทั้งเด็กไทยและเด็กข้ามชาติในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครกว่า 1,000 คนให้ได้รับการปูพื้นฐานทางการศึกษาที่มีคุณภาพ การเรียนรู้ภาษาไทยรวมถึงการเตรียมความพร้อมทางด้านวัฒนธรรมและการเรียนรู้ถึงวินัย กฎระเบียบการเข้าสังคมต่างๆ ภายใต้งบการดำเนินการกว่า 10 ล้านบาท

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารทียูเอฟ กล่าวเสริมว่า "ผมอยากเห็นประเทศไทยมีพัฒนาการที่รวดเร็วและก้าวหน้าในการพิทักษ์และส่งเสริมสิทธิมนุษยชนโดยรวม ไม่ว่าจะเป็นเด็กเยาวชน ชุมชนในประเทศ หรือประชาชนในภาพรวมให้ห่างจากการถูกคุกคามและละเมิดจากกลุ่มผู้แสวงผลประโยชน์ต่างๆทั้งภายในและภายนอกประเทศ และผมยินดีให้การสนับสนุนทิศทางการพัฒนาที่มีผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างจริงจัง เพื่อให้ประเทศไทยมีความเข้มแข็งยิ่งขึ้น และร่วมยืนหยัดอยู่ในประชาคมโลกได้อย่างภาคภูมิ"

"ทั้งนี้เรามุ่งหวังที่จะให้ TUF Child Care Center เป็นสถานที่มอบความรู้อย่างมีคุณภาพ และสร้างเสริมทักษะการปฏิบัติตนเพื่อเป็นคนดีของสังคมในอนาคตต่อไป ในฐานะที่เราเป็นภาคธุรกิจเอกชนก็พร้อมที่จะสนับสนุนและเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่จะช่วยการขับเคลื่อนทางสังคมอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้เราพร้อมทำงานในเชิงรุกร่วมกับผู้มีส่วนได้ทุกภาคส่วน เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและให้เกิดประโยชน์ต่อสังคมโดยรวมยิ่งๆขึ้นไป"

นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ กรรมการผู้จัดการ กลุ่มผลิตภัณฑ์กุ้ง ทียูเอฟ กล่าวว่า "ในวันนี้ทั้ง 2 ศูนย์ฯ มีเด็กที่เข้ามาเตรียมความพร้อมแล้วกว่า 250 คน นอกจากการสนับสนุนทางด้านงานก่อสร้างจัดตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมนี้แล้วบริษัทฯ ยังให้การสนับสนุนอุปกรณ์การเรียนการสอน รวมถึงการจัดกิจกรรมเพื่อช่วยเสริมสร้างทักษะในด้านต่างๆ ของเด็ก เช่น กิจกรรมห้องสมุดเคลื่อนที่ ส่งเสริมให้เด็กรักการอ่าน เป็นต้น ขณะเดียวกันภายในองค์กรของเราก็ให้ความรู้กับพนักงานถึงความสำคัญของการส่งเสริมการศึกษาให้กับลูกหลานของพวกเขาเอง"

"จากสิ่งที่เราดำเนินการมานี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของเราในการมีส่วนร่วมให้การสนับสนุนความเท่าเทียมแก่เด็กข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาคร ไม่เพียงแค่ด้านการศึกษาเท่านั้น แต่มองไปถึงสิทธิมนุษยชน ถึงแม้ว่าการดูแลแรงงานข้ามชาติอย่างเหมาะสมจะเป็นประเด็นใหญ่ระดับประเทศ แต่เราเชื่อว่าจำเป็นต้องมีการกลไกในเริ่มต้นอย่างจริงจัง และหวังว่าผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นจากโครงการนี้จะสามารถเป็นจุดเริ่มต้นเพื่อการขยายผลไปสู่การส่งเสริมสิทธิมนุษยชนในทุกภาคส่วนของประเทศไทยอีกด้วย"

"ทั้งนี้แผนที่การจัดตั้งศูนย์ฯ อีก 3 แห่ง จะมีการดำเนินการภายในกรอบระยะเวลาอีก 2 ปีข้างหน้านี้และยังจะเป็นโครงการเพื่อรองรับทั้งเด็กไทยและเด็กข้ามชาติในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครของแรงงานในจังหวัดให้ได้รับพื้นฐานทางการศึกษาที่มีคุณภาพ การเรียนรู้เตรียมความพร้อมทางด้านวัฒนธรรมและ กฎระเบียบ วินัยการเข้าสังคม เพื่อช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตได้ไม่มากก็น้อยต่อไป" นายฤทธิรงค์กล่าวปิดท้าย