ทียูเอฟ และเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส ลงสัญญาควบรวมกิจการกับเมอร์อไลอันซ์ พร้อมก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตแซลมอนรมควันชั้นนำของยุโรป

  • ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ เร่งเครื่องขึ้นเป็นผู้นำตลาดโลกในธุรกิจอาหารทะเลด้วยการเข้าซื้อกิจการเมอร์อไลอันซ์ หนึ่งในผู้ผลิตปลาแซลมอนรมควันชั้นนำของยุโรป ซึ่งถือเป็นตลาดแซลมอนรมควันใหญ่ที่สุดในโลก
  • ข้อตกลงการควบรวมกิจการนี้จะช่วยยกระดับรายรับของทียูเอฟ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว คาดว่ารายได้จะเพิ่มขึ้นราว 5-6 เปอร์เซนต์ ของทั้งกลุ่มธุรกิจทียูเอฟ
  • เมอร์อไลอันซ์ จะถือเป็นอีกหนึ่งศักยภาพอันโดดเด่นสำหรับธุรกิจทียูเอฟในยุโรป ด้วยการขับเคลื่อนการเติบโตจากภายในด้วยยอดขายในส่วนผลิตภัณฑ์ปลาแช่เย็น

กรุงเทพฯ - 4 กันยายน 2557 -- บริษัท ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์ จำกัด (มหาชน) หรือ ทียูเอฟ ประกาศการบรรลุข้อตกลงการควบรวมกิจการทั้งหมดของเมอร์อไลอันซ์ ผู้ผลิตแซลมอนรมควันชั้นนำของยุโรป ซึ่งมียอดรายได้รวมที่ 220 ล้านเหรียญสหรัฐ ณ วันสิ้นสุดที่ 31 มีนาคม 2557 ข้อตกลงดังกล่าวถือเป็นกลยุทธ์หนึ่งของทียูเอฟ ที่จะเพิ่มศักยภาพทางการตลาดจากความเชี่ยวชาญของเมอร์อไลอันซ์ ในฐานะผู้นำด้านปลาแซลมอนรมควันในตลาดยุโรป รวมไปถึงขยายการเติบโตด้านรายได้ให้แข็งแกร่งขึ้นในธุรกิจอาหารประเภทแช่เย็นในยุโรปอีกด้วย

ข้อตกลงทางธุรกิจนี้จะช่วยยกระดับความเป็นผู้นำในตลาดยุโรปของเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส หนึ่งในบริษัทในเครือของทียูเอฟในทวีปยุโรป ซึ่งเป็นผู้นำด้านผลิตภัณฑ์อาหารทะเลสำเร็จรูปพร้อมรับประทาน ที่ได้รับการยอมรับเป็นอย่างดีในหมู่ผู้บริโภคกว่า 50 ประเทศ ได้แก่แบรนด์ พีทินาเวียร์ จอห์นเวสต์ พาร์เมนเทียร์ และมารีบลู

การควบรวมกิจการกับเมอร์อไลอันซ์ ถือเป็นก้าวสำคัญของทียูเอฟ ที่นำไปสู่เป้าหมายยอดรายได้สองเท่าของกลุ่มธุรกิจภายในปี 2563 การดำเนินการข้อตกลงทางธุรกิจนี้ถือเป็นจุดเริ่มตันและเป็นเพียงหนึ่งในข้อตกลงซื้อขายที่ทางบริษัทฯกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาดำเนินการและคาดว่าจะแล้วเสร็จในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ และการควบรวมกิจการธุรกิจนี้จะส่งผลให้รายได้ของกลุ่มทียูเอฟ เพิ่มขึ้นอีก 5 ถึง 6 เปอร์เซนต์โดยประมาณ

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของกลุ่มทียูเอฟ กล่าวให้ความเห็นว่า "การควบรวมกิจการนี้ เป็นความลงตัวทั้งในแง่ของกลยุทธ์เชิงธุรกิจและเงื่อนไขด้านเวลา พันธมิตรใหม่ทางธุรกิจนี้จะส่งเสริมให้เรา ได้ต่อยอดการเติบโตในธุรกิจปลาแซลมอนรมควันแช่เย็น ด้วยจุดแข็งที่ช่วยเติมเต็มซึ่งกันของทั้งสององค์กร และที่สำคัญคือ เรายังคงมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของ 6 กลุ่มธุรกิจหลักของเรา ได้แก่ กลุ่มธุรกิจปลาทูน่า กลุ่มธุรกิจกุ้งและธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับกุ้ง กลุ่มธุรกิจปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยง กลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและผลิตภัณฑ์อื่นๆ และกลุ่มธุรกิจปลาแซลมอน ซึ่งเราเชื่อมั่นว่า แซลมอนคือหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่มีศักยภาพการเติบโตสูงที่สุดในกลุ่มธุรกิจเรา แนวทางของเราคือการค้นหาผลิตภัณฑ์ที่มีคุณค่าเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้กับกลุ่มธุรกิจหลักของเรา เปรียบเสมือนไข่มุกที่ซ่อนอยู่ในแต่ละประเภทของหน่วยธุรกิจ ที่จะมาเพิ่มประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์และทำหน้าที่เป็นสินค้าหลักเพื่อการเติบโต การควบรวมกิจการครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในข้อตกลงการควบรวมกิจการตามแนวทางกลยุทธ์ของเรา ซึ่งผมจะมีความยินดีจะแจ้งข่าวสารที่น่าสนใจให้กับทุกท่านได้รับทราบในโอกาสต่อไป"

"เมอร์อไลอันซ์ และกลุ่มธุรกิจของเรา ต่างยึดถือค่านิยมหลักเหมือนๆกัน ไม่ว่าจะเป็นการคัดสรรแหล่งวัตถุดิบอย่างยั่งยืน การสร้างสรรค์นวัตกรรม และการมีความรับผิดชอบในผลิตภัณฑ์ เราขอต้อนรับเมอร์ อไลอันซ์ ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง และผมเชื่อว่าทั้งเมอร์อไลอันซ์จะได้ยังประโยชน์เพิ่มศักยภาพจากการรวมเข้าเป็นหนึ่งเดียวกับหนึ่งในกลุ่มธุรกิจอาหารทะเลระดับโลกที่แข็งแกร่งที่สุดอย่างแน่นอน" นายธีรพงศ์ กล่าวสรุป

เมอร์อไลอันซ์ เป็นบริษัทสัญชาติฝรั่งเศส มียอดขายกว่า 220 ล้านเหรียญสหรัฐในปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 มีนาคม 2557 ติดอันดับผู้ผลิตแซลมอนรมควันใหญ่เป็นอันดับสี่ของยุโรป เมอร์อไลอันซ์ มียอดขายอันโดดเด่นในตลาดฝรั่งเศสและสหราชอาณาจักร โดยมีสายการผลิตในฝรั่งเศส สกอตแลนด์ และโปแลนด์ ทำเลที่ตั้งโรงงานผลิตทั้งสามแห่ง ตั้งอยู่ตามจุดยุทธศาสตร์เชิงธุรกิจของแหล่งซัพพลายปลาในท้องถิ่น และอยู่ใกล้กับลูกค้าและผู้บริโภคโดยตรงอีกด้วย เมอร์อไลอันซ์ เป็นบริษัทที่นำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงของปลาแซลมอนรมควันแช่เย็นหลากหลายประเภท

อลิซาเบธ ฟลูเรียต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส กล่าวว่า "การควบรวมกิจการกับเมอร์อไลอันซ์ แสดงให้เห็นถึงโอกาสอันดียิ่งในขยายตัวทางธุรกิจของเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส โดยจะส่งผลต่อการเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เราต้องการนำความรู้และความเชี่ยวชาญของพนักงานของทั้งสององค์กรมาขยายตลาดหมวดหมู่อาหารทะเลแช่เย็น ทั้งทีมเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส และทีมเมอร์อไลอันซ์ ต่างรู้สึกตื่นเต้นที่จะได้ร่วมงานกันเพื่อสร้างรากฐานการเติบโตของกลุ่มอาหารทะเลแช่เย็น โดยเรายึดหลักการสร้างนวัตกรรม การดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน และการคำนึงถึงผู้บริโภคและลูกค้าเป็นสำคัญ"

กิลเลส ชาร์เพนเทียร์ ประธานบริษัทเมอร์อไลอันซ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า "เมอร์อไลอันซ์ มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับทียูเอฟ และเอ็มดับเบิลยูแบรนด์ส เนื่องจากเราต่างยึดมั่นในค่านิยมและความมีใจรักต่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลเหมือนกัน จึงถือเป็นอีกก้าวสำคัญบนเส้นทางการเดินทางกว่า 40 ปีของของเมอร์อไลอันซ์ เรามั่นใจอย่างเต็มเปี่ยมว่า การรวมพลังกันจะเร่งขับเคลื่อนเราไปสู่เส้นทางความสำเร็จในธุรกิจอาหารทะเลแช่เย็นต่อไป

ข้อตกลงการควบรวมกิจการ 100 เปอร์เซนต์ของเมอร์อไลอันซ์ จะบรรลุเสร็จสิ้นตามข้อตกลงการควบรวมกิจการทางธุรกิจซึ่งคาดว่าจะเสร็จสมบูรณ์ภายในไตรมาสสุดท้ายของปี 2557 นี้

เกี่ยวกับเมอร์อลิอันซ์
ประสบการณ์ในธุรกิจกว่า 40 ปีทำให้เมอร์อลิอันซ์ ก้าวเป็นผู้นำผู้ผลิตแซลมอนรมควันที่มีแบรนด์เป็นของตัวเองในฝรั่งเศส โดยมีส่วนแบ่งการตลาด 20 เปอร์เซนต์ และถือเป็นผู้นำยอดขายอันดับ 4 ของผู้ ผลิตปลาแซลมอนรมควันในยุโรป เมอร์อไลอันซ์ มีชื่อเสียงในกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่มีการแข่งขันสูง ซัพพลายเชนที่มีประสิทธิภาพ นโยบายความปลอดภัยของอาหาร ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมอันโดดเด่น และความยอดเยี่ยมของผลิตภัณฑ์