ไทยยูเนี่ยน คว้ารางวัลรายงานความยั่งยืนดีเยี่ยมจาก สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

บรรยายใต้ภาพ: นายภัทรชัย สนธิขันธ์ ผู้จัดการฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านผู้คนและการพัฒนาชุมชนของไทยยูเนี่ยน (ขวา) รับโล่รางวัลรายงานความยั่งยืนดีเยี่ยม ประจำปี 2560 จากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์

18 ธันวาคม 2560 กรุงเทพฯ — บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) รับรางวัลรายงานความยั่งยืนดีเยี่ยม ประจำปี 2560 จาก คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา ซึ่งงานดังกล่าวจัดโดยสมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย โดยไทยยูเนี่ยนเป็นหนึ่งใน 8 บริษัทที่ได้รับรางวัลในประเภทนี้

ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนได้เปิดเผยรายงานความยั่งยืนประจำปีต่อสาธารณชน โดยในรายงานมีรายละเอียดการดำเนินงานของบริษัทระหว่างเดือนมกราคมถึงเดือนธันวาคม ปี 2559 ตามดัชนีชี้วัดผลการดำเนินงานและเป้าหมายที่ตั้งไว้ใน SeaChange® กลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน 

รายงานฉบับดังกล่าวได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการทำงานเชิงกลยุทธ์ของไทยยูเนี่ยนด้านความยั่งยืนในการปฏิรูปวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก ซึ่งครอบคลุมถึงความคืบหน้าด้านการดำเนินการเพื่อความยั่งยืนในการทำธุรกิจของไทยยูเนี่ยนในทุกแง่มุม นับตั้งแต่วิธีการที่บริษัทอนุรักษ์ท้องทะเลไปจนถึงการบริหารจัดการของเสีย รวมถึงความรับผิดชอบที่ไทยยูเนี่ยนมีต่อพนักงานไปจนถึงการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทมีการดำเนินงาน

รายงานความยั่งยืน ประจำปี 2559 ของไทยยูเนี่ยน จัดทำขึ้นตามแนวทางการรายงานด้านความยั่งยืนที่ได้รับการยอมรับในระดับสากล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในชื่อ กรอบการรายงานความยั่งยืน Global Reporting Initiative (GRI) Guidelines G4 และการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มธุรกิจแปรรูปอาหาร (Food Processing Sector Supplement: FPSS) โดยรายงานฉบับดังกล่าวเป็นไปตามกรอบของ GRI ตามแนวทาง G4 แบบทางเลือกหลัก (Core Option)

“ไทยยูเนี่ยนมีความภูมิใจในความโปร่งใสของการสื่อสารที่เรามีต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ลูกค้า และอุตสาหกรรม” ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าว “ความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง ในการทำให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลของโลกรับรู้ถึงการเดินหน้าดำเนินงานเพื่อรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค และรายงานฉบับนี้เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการดังกล่าว”

ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมในรายงานความยั่งยืนประจำปี 2559 ฉบับภาษาอังกฤษและภาษาไทยได้ที่เว็บไซต์ของไทยยูเนี่ยน http://www.thaiunion.com/en/sustainability/report

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 125 พันล้านบาท (3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 46,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว จนส่งผลโดยรวมให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2560 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน  นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี  FTSE4Good Emerging Index เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณวิสาขา จันทกิจ
บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
โทรศัพท์มือถือ: +66.81.845.7316
อีเมล: Wisaka.Chantakit@thaiunion.com