ไทยยูเนี่ยนได้รับสินเชื่อระยะสั้น 2 พันล้านจากทีเอ็มบีธนชาต

  • อีกก้าวสำคัญของการทำงาน Blue Finance ในประเทศไทย

กรุงเทพฯ 1 มีนาคม 2565 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อระยะสั้น จำนวน 2,000 ล้านบาท จากทีเอ็มบีธนชาต ซึ่งเป็นอีกก้าวสำคัญของไทยยูเนี่ยนในการทำงานด้าน Blue Finance หรือการบริหารจัดการเงินขององค์กรที่มีโครงการที่เป็นประโยชน์ต่อมหาสมุทรและอุตสาหกรรมอาหารทะเลโดยรวม

นายลูโดวิค การ์นิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินกลุ่ม บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ ในปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนได้เดินหน้าการเงินที่ส่งเสริมความยั่งยืนและตั้งเป้าหมายการทำงานที่สนับสนุนการอนุรักษ์มหาสมุทร โดยได้รับสินเชื่อและออกหุ้นกู้ระยะยาวที่ส่งเสริมความยั่งยืนรวมทั้งสิ้น 27,000 ล้านบาท และได้ตั้งเป้าหมายระยะยาว ให้ 75 เปอร์เซ็นต์ของเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทเป็น Blue Finance ภายในปี 2568 ซึ่งการทำงานด้าน Blue Finance ที่บริษัทได้ริเริ่มในปีที่ผ่านมาได้ตอบโจทย์เป้าหมายของบริษัทเป็นอย่างดีในด้านการให้ความสำคัญกับนวัตกรรมและความยั่งยืนเป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ”

โดยก่อนหน้านี้ ไทยยูเนี่ยนได้ประกาศเป้าหมายในการเป็นบริษัทที่พร้อมดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คน ควบคู่ไปกับการดูแลอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หรือ Healthy Living, Healthy Oceans สร้างความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม และนำนวัตกรรมมาพัฒนาสินค้าเพื่อสุขภาพของผู้บริโภคทั่วโลก

บรรยายภาพ (จากซ้าย)

  • ยงยุทธ เสฏฐวิวรรธน์ กรรมการผู้จัดการ ด้านการบริหารการเงินและศูนย์บริการร่วมทางการเงิน บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
  • ลูโดวิค การ์นิเยร์ ประธานเจ้าหน้าที่ด้านการเงินกลุ่ม บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป
  • อเล็กซานเดอร์ นนท์ แลงเฟลด์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต
  • ศุภรัตน์ ทิมประเทือง เจ้าหน้าที่บริหาร บริหารความสัมพันธ์ธุรกิจ ทีเอ็มบีธนชาต

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน