ไทยยูเนี่ยน เปิดศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กก่อนวัยเรียนแห่งที่ 5 สำหรับเด็กข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาคร

ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการมาในปี 2556 มีเด็กกว่า 400 คน ได้เข้าศึกษาที่ศูนย์เตรียมความพร้อมฯ ของไทยยูเนี่ยน โดยได้รับการสอนภาษาไทย วัฒนธรรมไทย คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และระเบียบวินัยทางสังคม

11 พฤศจิกายน 2563 สมุทรสาคร – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดศูนย์เตรียมความพร้อมก่อนวัยเรียนแห่งที่ 5 หรือ Thai Union preschool อย่างเป็นทางการในวันนี้ ที่โรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม จังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะช่วยเตรียมความพร้อมให้กับเด็กข้ามชาติ สำหรับการเข้าเรียนในระบบการศึกษาของไทย พร้อมบรรลุเป้าหมายของบริษัทในการเปิดศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กก่อนวัยเรียนให้ครบทั้ง 5 แห่ง ภายในปี 2563

ตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการมาในปี 2556 มีเด็กกว่า 400 คน ได้เข้าศึกษาที่ศูนย์เตรียมความพร้อมฯ ของไทยยูเนี่ยน โดยได้รับการสอนภาษาไทย วัฒนธรรมไทย คณิตศาสตร์ขั้นพื้นฐาน และระเบียบวินัยทางสังคม เพื่อสร้างพื้นฐานทางการศึกษาให้เด็กเหล่านี้

“ไทยยูเนี่ยนตระหนักดีว่า การศึกษาเป็นรากฐานสำคัญเพื่อการมีชีวิตที่ดีขึ้น” นายฤทธิรงค์ บุญมีโชติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจอาหารแช่แข็งและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว “ซึ่งโครงการศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กก่อนวัยเรียนเป็นหนึ่งในส่วนสำคัญของกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน หรือ SeaChange® ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ที่อาศัยและทำงานในชุมชนที่เรามีการดำเนินธุรกิจอยู่”

ผู้ที่มีส่วนสำคัญในความสำเร็จของโครงการศูนย์เตรียมพร้อมเด็กก่อนวัยเรียนคือ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน (LPN) ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการช่วยสื่อสารกับชุมชนแรงงานข้ามชาติในจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อส่งเสริมให้พวกเขาส่งบุตรหลานเข้าเรียนในศูนย์เตรียมความพร้อมฯ “โรงเรียนจะช่วยดูแล เด็กจะมีความปลอดภัยเมื่อเรียนอยู่ในห้องเรียน ในขณะที่ผู้ปกครองกำลังทำงานอยู่ และผมต้องขอขอบคุณโรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการทุกโรงเรียนที่เข้าใจถึงผลกระทบที่สำคัญของการศึกษา ในการพัฒนาทักษะของนักเรียนเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับอนาคตให้ดียิ่งขึ้น” นายฤทธิรงค์ กล่าว

นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้จัดกิจกรรมสร้างเสริมประสบการณ์การเรียนรู้ต่างๆ ได้แก่ เวิร์คช็อปโภชนาการ ฟุตบอลคลินิค กิจกรรมปลูกป่า และการฝึกอบรมการดับเพลิงเบื้องต้น โดยกิจกรรมเหล่านี้ ไม่ได้จัดให้เพียงเด็กนักเรียนในศูนย์เตรียมความพร้อมฯ เท่านั้น แต่ยังมีเด็กนักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆ ในจังหวัดสมุทรสาครมาเข้าร่วมกิจกรรมด้วย

นางสายรุ่ง พุทธา ผู้อำนวยการโรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม กล่าว “นับว่าเป็นโอกาสที่ดีของโรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม ที่เป็นหนึ่งในโรงเรียนที่ได้เข้าร่วมในโครงการของไทยยูเนี่ยน การศึกษามีความสำคัญต่อเด็กทุกเชื้อชาติ โรงเรียนของเรามีนักเรียนทั้งหมด 420 คน ซึ่งจำนวนนักเรียนครึ่งหนึ่งเป็นนักเรียนไทย ส่วนอีกครึ่งหนึ่งเป็นนักเรียนข้ามชาติ การได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไทยยูเนี่ยนในการจัดหาอุปกรณ์สำหรับห้องเรียน และการจ้างบุคลากรครูให้จำนวน 2 อัตรา ซึ่งทางโรงเรียนดูแลเด็กทุกเชื้อชาติให้ได้รับการพัฒนาอย่างเต็มศักยภาพด้วยความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทุกคน

“เรามีความมุ่งมั่น ที่จะปกป้องคุ้มครองทางสังคมแก่เด็กทุกเชื้อชาติในระบบการเรียนของรัฐ เพื่อช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็กกลุ่มนี้ และโครงการนี้นับเป็นตัวอย่างของการความมุ่งมั่นดังกล่าว” นายสมพงค์ สระแก้ว ผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการ มูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน กล่าว “เราคาดหวังว่า โอกาสที่เด็กกลุ่มนี้ได้รับจะทำให้พวกเขามีคุณภาพชีวิตที่ดีในอนาคต และสามารถอยู่ร่วมกันในสังคมอย่างมีความสุข”

ไทยยูเนี่ยน มีการดำเนินงานร่วมกับมูลนิธิเครือข่ายส่งเสริมคุณภาพชีวิตแรงงาน มาตั้งแต่ปี 2556 ในการจัดตั้งศูนย์เตรียมความพร้อมเด็กข้ามชาติก่อนวัยเรียน จำนวน 5 แห่ง ภายในปีนี้ ซึ่งทั้ง 5 แห่งประกอบด้วย โรงเรียนวัดศรีสุทธาราม โรงเรียนวัดศิริมงคล โรงเรียนวัดใหญ่จอมปราสาท โรงเรียนหลวงแพทย์โกศลอุปถัมภ์ และโรงเรียนวัดสามัคคีศรัทธาราม

###

 

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่หกติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน

สอบถามข้อมูลติดต่อ
วิริยาภรณ์ โปษยานนท์ (แป๋ม)
อีเมล Wiriyaporn.Posayanonda@thaiunion.com
โทร +66.81.922.5135

จิรวัส มนตรีวงศ์ (ดิว)
อีเมล Jirawat.Montreevong@thaiunion.com
โทร +66.84.668.8845