ไทยยูเนี่ยนเพิ่มการถือหุ้นในบริษัทร่วมทุนในรัสเซีย

11 สิงหาคม 2563 – ลักเซมเบิร์ก – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ประกาศวันนี้ว่า บริษัทฯ ได้เพิ่มการถือหุ้นในบริษัท TUMD Luxembourg Sàrl ผ่านบริษัทในเครือ Thai Union EU Seafood 1 SA โดยบริษัท TUMD Luxembourg Sàrl นี้จะทำหน้าที่เป็นบริษัทที่ร่วมลงทุนใน 3 บริษัทในประเทศรัสเซีย ได้แก่ Dalpromryba LLC (Dalpromryba), Maguro LLC (Maguro) และ Torgovo-Promyshlenny Komplex Dalprombryba (TPK DPR)

นับตั้งแต่ปี 2561 บริษัท Thai Union EU Seafood 1 SA ได้ถือหุ้นและสิทธิในการออกเสียงเป็นสัดส่วน 45 เปอร์เซ็นต์ ของบริษัท TUMD Luxembourg Sàrl โดยหุ้นอีก 55 เปอร์เซ็นต์ที่เหลือนั้นถือโดย บริษัท MDF Investments Ltd การเพิ่มหุ้นอีก 45 เปอร์เซ็นต์ในครั้งนี้จะทำให้ Thai Union EU Seafood 1 SA ถือหุ้นในบริษัท TUMD Luxembourg Sàrl รวมเป็น 90 เปอร์เซ็นต์ และบริษัท MDF Investments Ltd จะเหลือหุ้นเพียง 10 เปอร์เซ็นต์

นายพอล รีแนน ประธานกรรมการ บริษัท Thai Union EU Seafood 1 SA กล่าวว่า “ไทยยูเนี่ยนยุโรปมุ่งเน้นการเติบโตเพื่อต่อยอดศักยภาพของบริษัทได้อย่างเต็มที่ การเพิ่มการถือหุ้นในครั้งนี้นับเป็นส่วนสำคัญของไทยยูเนี่ยนในการที่จะขยายธุรกิจต่อไป เรามีความยินดีที่จะขยายธุรกิจไปยังรัสเซียและดำเนินธุรกิจของเราในรัสเซียต่อไป”

นายอเล็กซานเดอร์ ปานิน ผู้อำนวยการ บริษัท MDF Investments Ltd. กล่าวว่า “การเพิ่มการถือหุ้นในครั้งจะส่งผลให้ TUMD Luxembourg Sàrl เติบโตไปอีกขั้น และเรายินดีที่จะได้ร่วมงานกับไทยยูเนี่ยนต่อไป”

---------

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในด้านอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่หกติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน