ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้รับการเสนอชื่ออยู่ในรายชื่อ Most Creative People in Business ปี 2563 จากนิตยสาร Fast Company

บรรยายภาพ: ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้รับการเสนอชื่ออยู่ในรายชื่อ Most Creative People in Business ปี 2563 จากนิตยสาร Fast Company

5 สิงหาคม 2563, กรุงเทพ – ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้รับการเสนอชื่อในรายชื่อ Most Creative People in Business ประจำปี 2563 จากนิตยสาร Fast Company ที่ให้การยอมรับเรื่องการใช้เทคโนโลยีด้านนวัตกรรมในการเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก

นิตยสารดังกล่าว จากสหรัฐอเมริกา กล่าวว่า ดร.แดเรี่ยน ได้ผลักดันให้ไทยยูเนี่ยนติดอันดับสูงสุดของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ในกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหาร ด้วยการพัฒนานโยบายด้านการสรรหาแรงงานที่มีจริยธรรม และการจัดทำข้อตกลงร่วมกับกับกรีนพีซในปี 2560 เพื่อผลักดันการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภาคอาหารทะเล

ดร. แดเรี่ยน มีชื่อติดอยู่ในรายชื่อ Most Creative People in Business ประจำปี ครั้งที่ 11 พร้อมกับรายชื่อบุคคลจากบริษัทต่างๆ ที่มีทั้งหญิงและชายเช่น Netflix Google และ Patagonia รวมทั้งจากสถาบันต่างๆ เช่น มหาวิทยาลัย Johns Hopkins และสหภาพเสรีภาพพลเมืองชาวอเมริกันในรัฐแมสซาชูเซตส์ (ACLU of Massachusetts)

สำหรับรายชื่อ Most Creative People in Business ที่ได้รับการคัดเลือกนั้น เป็นบุคคลผู้ซึ่งใช้ความคิดเชิงนวัตกรรมที่ส่งผลกระทบต่อโลกมากกว่าผลสำเร็จทางด้านการเงิน

“เป็นเรื่องน่ายินดีอย่างมากที่ได้รับการคัดเลือกให้อยู่ในรายชื่อบุคคลที่น่ายกย่อง ที่มีความสำคัญต่อการสร้างผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจทั่วโลก เรื่องความยั่งยืนเป็นเรื่องที่ดิฉันให้ความสนใจอย่างมากมาตลอดชีวิต และดิฉันมีความสุขที่ได้เห็นวิธีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งไม่ได้มีเพียงแค่ธุรกิจเดียวเท่านั้นแต่เปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมทั้งหมด ดิฉันรู้สึกขอบคุณที่ถูกล้อมรอบไปด้วยทีมงานที่น่าทึ่งที่ร่วมทำงานในเรื่องที่ดิฉันให้ความสำคัญและทำร่วมกันทุกวัน เพื่อค้นหานวัตกรรมใหม่ๆ ที่จะทำให้อุตสาหกรรรมอาหารทะเลทั่วโลกมีความยั่งยืนมากขึ้น” ดร. แดเรี่ยนกล่าว

นิตยสาร Fast Company ยังยกย่อง ดร. แดเรี่ยน ในการนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อแสวงหาการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวก ซึ่งรวมถึงการทำงานเรื่องเรือประมงกับสัญญาณดาวเทียม Wi-Fi ที่จะทำให้แรงงานบนเรือสามารถใช้แอปพลิเคชันสนทนาเพื่อติดต่อกับครอบครัวบนฝั่ง และยังได้ขยายการทำงานในโปรแกรม eObserver กับองค์กรด้านการกุศลเพื่อสิ่งแวดล้อม (The Nature Conservancy) โดยการใช้กล้องบนเรือเพื่อบันทึกการจับปลาทั้งหมด และในปี 2563 โดยไทยยูเนี่ยนจะทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย Stanford เพื่อใช้ AI ในการตรวจสอบภาพที่ถูกบันทึกเพื่อให้มั่นใจว่าเรือมีการติดตามในเรื่องความปลอดภัยเป็นไปตามมาตรฐานที่วางเอาไว้

“ในแต่ละปี เรามีการยกย่องศิลปิน และบุคคลที่สร้างสรรค์ที่สร้างความโดดเด่นให้กับธุรกิจของตนเองและผู้บริหารขององค์กรมีการประยุกต์ใช้ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมเพื่อรับมือกับความท้าทายบางเรื่องที่ใหญ่ที่สุดที่ภาคธุรกิจและสังคมเผชิญอยู่ ซึ่งบุคคลที่สร้างสรรค์มากที่สุดไม่ว่าจะเป็นรายบุคคล หรือกลุ่มล้วนเป็นแรงบันดาลใจ” สเตฟานี เมชตา หัวหน้าบรรณาธิการ นิตยสาร Fast Company กล่าว

นิตยสาร Fast Company ฉบับ Most Creative People in Business เผยแพร่ทางออนไลน์ สามารถอ่านได้ที่นี่

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำในด้านอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 ของโลกในกลุ่มอุตสาหกรรมอาหารจากดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

วิริยาภรณ์ โปษยานนท์
โทร +66.81.922.5135
อีเมล์ Wiriyaporn.Posayanonda@thaiunion.com

จิรวัส มนตรีวงค์
โทร +66.80.976.4613
อีเมล์ Jirawat.montreevong@thaiunion.com