ไทยยูเนี่ยนได้รับการประเมินจากองค์กรอิสระ เป็นตัวอย่างด้านนโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรม

บรรยายภาพ: นโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมได้รับการประเมินอย่างอิสระจาก Impactt บริษัทที่ปรึกษาการค้าอย่างมีจริยธรรม ว่าเป็นตัวอย่างให้กับบริษัทอื่นๆ

  • การประเมินโดย Impactt บริษัทที่ปรึกษาการค้าอย่างมีจริยธรรม ระบุว่านโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมของไทยยูเนี่ยน “ได้ถูกนำมาปฏิบัติและพัฒนาการสรรหาแรงงานข้ามชาติได้อย่างมีนัยยะ”
  • นโยบายของไทยยูเนี่ยนเป็นตัวอย่างให้บริษัทต่างๆ ในการจัดทำขั้นตอนสรรหาแรงงานอย่างเป็นธรรมและโปร่งใส
  • การประเมิน ได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Humanity United และ The Freedom Fund ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานในการยุติทาสและการค้ามนุษย์

6 พฤศจิกายน 2562, กรุงเทพฯ – บริษ้ท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยนโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมได้รับการประเมินอิสระจาก Impactt บริษัทที่ปรึกษาการค้าอย่างมีจริยธรรม ว่านโยบายดังกล่าว “ได้ถูกนำมาปฏิบัติและพัฒนาการสรรหาแรงงานข้ามชาติได้อย่างมีนัยยะ”

รายงานฉบับดังกล่าวมีชื่อว่า “หลักการในการสรรหาแรงงานอย่างมีจริยธรรมและการจ่ายของนายจ้าง: จากนโยบายสู่การปฏิบัติ” ใช้เวลาในการประเมิน 6 เดือน โดยได้รับเงินทุนสนับสนุนจาก Humanity United และ The Freedom Fund

รายงานฉบับนี้ยังได้ระบุว่า ไทยยูเนี่ยนได้ใช้กลยุทธ์เพื่อการเปลี่ยนแปลงด้วยการประกาศนโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมในปี 2559 นับเป็นตัวอย่างให้กับบริษัทอื่นๆ ในการทำงานเพื่อให้ได้ผลสำเร็จเช่นกัน สำหรับประเด็นหลักๆ จากผลการประเมินได้แก่

  • ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับจัดหางาน ที่แรงงานเป็นฝ่ายรับผิดชอบได้ลดลงอย่างมาก
  • แรงงานรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นในระหว่างการเดินทางมาสมัครงานและมีความพึงพอใจในงานมากยิ่งขึ้น
  • มีผู้สมัครงานมากเพิ่มขึ้น และจำนวนแรงงานที่เปลี่ยนงานลดลง
  • ตัวแทนจัดหางานมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น และได้รับการยอมรับในเรื่องจริยธรรม

ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมกิจการองค์กรและความยั่งยืน บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า

“ตั้งแต่แรกที่เราเริ่มใช้นโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมนั้น เรามุ่งมั่นว่าพนักงานทุกคนจะต้องเข้ามาทำงานโดยที่มีสิทธิ์เลือกอย่างอิสระและมีความปลอดภัย เราภูมิใจมากในความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาที่เราได้ทำงานกันมา การที่บริษัทร่วมในการจัดทำรายงานการเมินในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ของเราที่จะเป็นผู้นำในเรื่องความโปร่งใส ตราบใดที่ยังไม่มีความโปร่งใส แรงงานทาสยุคใหม่ก็ยังคงหลบซ่อนในมุมมืดต่อไป”

ดร. แดเรี่ยน ยังกล่าวต่อว่าบริษัทจะนำข้อแนะนำจากการประเมินในครั้งนี้เพื่อปรับปรุงการดำเนินงานต่อไป ระบบต่างๆ ของไทยยูเนี่ยนยังไม่สมบูรณ์แบบ แต่ได้เริ่มนโยบายการสรรหาแรงงานข้ามชาติอย่างมีจริยธรรมเพื่อต้องการให้คุณภาพชีวิตของแรงงานดีขึ้น

ในการประเมินนี้ Impactt ยังได้จัดทำข้อเสนอแนะ แนวทางการสรรหาอย่างมีจริยธรรม สำหรับบริษัทต่างๆ ที่ต้องการดำเนินการสรรหาแรงงานให้โปร่งใสและเป็นธรรม โดยยึดผลการประเมินไทยยูเนี่ยนและประสบการณ์ของ Impactt ที่ทำงานร่วมกับบริษัทอื่นๆ ในความพยายามที่จะพัฒนาการสรรหาแรงงานข้ามชาติ

รายละเอียดของรายงานฉบับดังกล่าวมีตีพิมพ์ในบล็อกของ Humanity United

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.33 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด ทำให้ในปี 2561 และ 2562 ไทยยูเนี่ยนได้เป็นผู้นำอันดับ 1 กลุ่มอุตสาหกรรมของโลกใน Food Industry ในดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ และประสบความสำเร็จในการได้รับคะแนนเปอร์เซ็นไทล์สูงสุดที่ 100 ในคะแนนด้านความยั่งยืนทั้งหมด ปัจจุบันไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ เป็นปีที่ 6 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index ในปี 2561 อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

วิริยาภรณ์ โปษยานนท์
โทร +66.81.922.5135
อีเมล์ Wiriyaporn.Posayanonda@thaiunion.com

จิรวัส มนตรีวงค์
โทร +66.80.976.4613
อีเมล์ Jirawat.montreevong@thaiunion.com