ไทยยูเนี่ยน จับมือผู้บริหารเรด ล็อบสเตอร์ และกลุ่มนักลงทุนนำโดยผู้บริหารธูรกิจร้านอาหารชั้นนำ เข้าถือหุ้นใหญ่ในเรด ล็อบสเตอร์

บริษัท โกลเด้น เกท แคปิตอล ขายหุ้น เรด ล็อบสเตอร์ โดยบริษัทจะยังบริหารโดยทีมผู้บริหารเดิมนำโดย คิม ล็อพดร็อป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และสำนักงานใหญ่ยังคงตั้งอยู่ที่ออร์แลนโด ฟลอริดา สหรัฐอเมริกา

กรุงเทพฯ, ออร์แลนโด และซานฟรานซิสโก – 31 สิงหาคม 2563 – บริษัท โกลเด้น เกท แคปิตอล ประกาศตกลงขายหุ้นที่มีในบริษัท เรด ล็อบสเตอร์ ซีฟู้ด ให้กับกลุ่มทุนประกอบไปด้วย บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ซึ่งมีการลงทุนในเรด ล็อบสเตอร์อยู่ก่อนหน้านี้แล้ว กลุ่มนักลงุทนประกอบด้วยผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหารชั้นนำและอุตสาหกรรมการบริหาร และกลุ่มผู้บริหารเรด ล็อบสเตอร์เดิม

ด้วยประสบการณ์กว่า 40 ปีในอุตสาหกรรม ไทยยูเนี่ยนคือหนึ่งในบริษัทผู้นำอาหารทะเลระดับโลก ที่มีมูลค่าธุรกิจกว่า 4 พันล้านเหรียญสหรัฐ การลงทุนในครั้งนี้นับเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นที่ไทยยูเนี่ยนตั้งใจจะพัฒนาธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ โดยเส้นทางการเข้าสู่ธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ของไทยยูเนี่ยนเริ่มต้นขึ้นในปี 2559 ด้วยเงินลงทุนเชิงกลยุทธ์ 575 ล้านเหรียญสหรัฐ และส่งตัวแทนบริษัทสองคนเข้าเป็นคณะกรรมการบริษัทเรด ล็อบสเตอร์

กลุ่มนักลงทุนใหม่ในเรด ล็อบสเตอร์นี้ อยู่ภายใต้บริษัทชื่อ ซีฟู้ด อะไลอันซ์ ประกอบไปด้วย ผู้ถือหุ้นหลัก ได้แก่ นายพอล เคนนี่ และนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ผู้บริหารที่นำประสบการณ์กว่า 75 ปีในการบริหารธุรกิจร้านอาหารทั้งด้านกลยุทธ์ การบริหารจัดการ และการสร้างแบรนด์ โดยนายพอล เคนนี่ เคยดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารไมเนอร์ ฟู้ด หนึ่งในบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ที่ดำเนินธุรกิจร้านอาหารกว่า 2,000 แห่ง ใน 27 ประเทศ อาทิ The Pizza Company, The Coffee Club, Riverside, Thai Express, Benihana, Bonchon, Swensen's, Sizzler, Dairy Queen และ Burger King ในด้านนายฤทธิ์ ธีระโกเมน ปัจจุบันตำรงตำแหน่ง ประธานกรรมการ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด

นายคิม ล็อพดร็อป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรด ล็อบสเตอร์ กล่าวว่า "บริษัทมีความยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะไทยยูเนี่ยนนั้นเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบรายหลักให้กับเรด ล็อบสเตอร์มาอย่างต่อเนื่องยาวนาน อีกทั้งยังเป็นผู้ลงทุนในช่วงระยะเวลาสี่ปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ ซีฟู้ด อะไลอันซ์ ยังมีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการธุรกิจร้านอาหารและการบริการ ซึ่งจะส่งผลดีต่อบริษัทต่อไป ผมขอขอบคุณบริษัท โกลเด้น เกท แคปิตอล อีกครั้งทีสนับสนุนบริษัทเป็นอย่างดีในตลอดระยะเวลา 6 ปีที่ผ่านมาและโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงห้าเดือนสุดท้ายนี้"

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ไทยยูเนี่ยนได้ลงทุนเชิงกลยุทธ์ในเรด ล็อบสเตอร์ มาตั้งแต่ปี 2559 และการลงทุนในครั้งนี้นอกจากจะตอกย้ำความมุ่งมั่นของเราในธุรกิจเรด ล็อบสเตอร์ แล้ว ยังสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นที่เรามีต่อการบริหารและกลยุทธ์บริษัทที่จะนำเสนออาหารทะเลคุณภาพและมีความคุ้มค่าให้กับผู้บริโภค แบรนด์ เรด ล็อบสเตอร์เองมีความแข็งแกร่งอยู่แล้ว และมีฐานลูกค้านับล้านทั่วโลก และเราเชื่อว่าธุรกิจนี้มีศักยภาพในระยะยาว ซึ่งเรามองว่าจะสามารถนำจุดแข็งนี้มาต่อยอดธุรกิจ นอกจากนี้ผู้ร่วมทุนอย่าง ซีฟู้ด อะไลอันซ์ ยังมีความเชี่ยวชาญในธุรกิจร้านอาหาร ซึ่งจะสามารถพัฒนาแบรนด์เรด ล็อบสเตอร์ ให้เติบโตได้ต่อไป"

นายจอช โอลชานสกี กรรมการผู้จัดการบริษัท โกลเด้น เกท แคปิตอล กล่าวว่า "บริษัทรู้สึกเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานผู้บริหารกับเรด ล็อบสเตอร์ และประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งทำให้นักลงทุนของบริษัทได้รับผลตอบแทนที่ดีมาโดยตลอด นับตั้งแต่ปี 2557 และด้วยสภาพคล่องที่ดีของบริษัทนี้ เรามั่นใจว่าธุรกิจ เรด ล็อบสเตอร์ จะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และขออวยพรให้บริษัทภายใต้การบริหารใหม่นี้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี"

ตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 เรด ล็อบสเตอร์ ได้เพิ่มมาตรการต่างๆ ในด้านการควบคุมคุณภาพตามมาตรฐานความปลอดภัยต่างๆ ตามแนวทางของศูนย์การป้องกันและควบคุมโรคของรัฐบาล เพื่อที่จะให้มั่นใจได้ว่าลูกค้าจะได้รับสินค้าที่คงคุณภาพสูงและบริการที่ปลอดภัย นอกจากนี้ เรด ล็อบสเตอร์ ยังริเริ่มบริการส่งอาหารแบบไร้การสัมผัส และการบริหารสั่งอาหารกลับบ้านแบบไร้การสัมผัส ตลอดจนเมนูใหม่ๆ เช่น เซ็ทสังสรรค์ครอบครัวสำหรับ 4 ท่าน ที่ราคาเริ่มต้นเพียง 7 เหรียญสหรัฐต่อคนเท่านั้น ปัจจุบบัน ร้านอาหาร เรด ล็อบสเตอร์ 99 เปอร์เซ็นต์ ได้เปิดให้บริการสั่งอาหารกลับบ้านและส่งถึงบ้าน และ 88 เปอร์เซ็นต์ ได้เปิดให้นั่งรับประทานในร้าน โดยปรับเมนูเป็นกระดาษใช้ครั้งเดียว และมีบริการที่สามารถให้ลูกค้าอ่านเมนูอาหารจากมือถือ ลูกค้าสามารถชำระค่าอาหารได้โดย Apple Pay หรือบัตรเครดิตผ่านแท็ปเล็ตบนโต๊ะอาหารซึ่งจะมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อทุกครั้ง

นายคิม ล็อพดร็อป ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เรด ล็อบสเตอร์ กล่าวทิ้งท้ายว่า "ผมภูมิใจที่พวกเรารับมือกับสถานการณ์โควิด-19 ได้เป็นอย่างดี โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของลูกค้าและพนักงานเป็นอับดับแรก สถานการณ์ในครั้งนี้ทำให้เรากลับมาทบทวนการให้บริการแก่ลูกค้า ทำให้เราประสบความสำเร็จในการบริการอาหารทั้งแบบรับกลับและส่งถึงบ้านให้กับลูกค้า ซึ่งยอดขายในส่วนนี้เพิ่มขึ้นถึง 3 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงก่อนสถานการณ์โควิด-19 และยังคงดีต่อเนื่องหลังจากที่สาขาต่างๆ ของเราได้เปิดให้บริการนั่งทานภายในร้าน"

เกี่ยวกับ บริษัท เรด ล็อบสเตอร์ ซีฟู้ด จำกัด

เรด ล็อบสเตอร์ เป็นบริษัทที่ดำเนินกิจการร้านอาหารทะเลที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองออร์แลนโด รัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา ด้วยประวัติอันยาวนานและอนาคตที่สดใส เรด ล็อบสเตอร์มุ่งมั่นที่จะบริหารอาหารทะเลสดใหม่ คุณภาพที่ดีที่สุด ที่คัดสรรจากแหล่งที่มาที่ตรวจสอบได้ มีความรับผิดชอบและมีความยั่งยืน โดยสามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.redlobster.com/seafoodwithstandards และสามารถอ่านข้อมูลเกี่ยวกับสาขาและเมนูได้ที่ http://www.redlobster.com

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่หกติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 4 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน

ข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

วิริยาภรณ์ โปษยานนท์ Wiriyaporn.posayanonda@thaiunion.com