ไทยยูเนี่ยน เผยแพร่รายงานเพื่อความยั่งยืนฉบับที่ 5

บรรยายภาพ: ฝูงปลาทูน่ากำลังว่ายน้ำอยู่ในท้องทะเล ซึ่งภาพดังกล่าวคือภาพหน้าปกของรายงานเพื่อความยั่งยืน 2560 ของไทยยูเนี่ยน (เครดิตภาพ: Rich Carey/Shutterstock.com/Number24)

4 มิถุนายน 2561 กรุงเทพฯ — บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เผยแพร่รายงานเพื่อความยั่งยืนประจำปีต่อสาธารณะ โดยนำเสนอข้อมูลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2560 เทียบกับตัวชี้วัดหลักและเป้าหมายที่ตั้งไว้ในกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของบริษัท หรือที่เรียกว่า SeaChange®

โดยรายงานฉบับนี้  ได้ให้รายละเอียดวิธีการทำงานเชิงกลยุทธ์ของไทยยูเนี่ยนด้านความยั่งยืนที่กำลังปฏิรูปวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก โดยรายละเอียดครอบคลุมถึงความก้าวหน้าด้านความยั่งยืนบนเส้นทางการดำเนินงานของไทยยูเนี่ยนในทุกแง่มุมของธุรกิจของบริษัท ตั้งแต่วิธีการดูแลท้องทะเลไปจนถึงวิธีการจัดการของเสีย รวมถึงความรับผิดชอบที่ไทยยูเนี่ยนมีต่อพนักงานไปจนถึงการสร้างอนาคตที่ดีขึ้นให้กับชุมชนในพื้นที่ซึ่งบริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่

“วันนี้ ไทยยูเนี่ยนรับบทบาทในการเป็นผู้นำสำหรับการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกมากกว่าที่ผ่านมา ความยั่งยืนจะเป็นหัวใจของกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของเราภายใต้กลยุทธ์ SeaChange® ซึ่งถูกออกแบบเพื่อปฏิรูปวิธีการดำเนินงานของอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลก” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยยูเนี่ยน กล่าว “ผมมีความภูมิใจเป็นอย่างยิ่งสำหรับความพยายามด้านความยั่งยืนของเรา ซึ่งข้อมูลในรายงานฉบันนี้จะแสดงให้เห็นถึงการดำเนินงานที่เรากำลังจะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมอาหารทะเลให้ดีขึ้น”

รายงานเพื่อความยั่งยืน 2560 ของไทยยูเนี่ยนนี้มีการจัดทำตามมาตรฐานการรายงานความยั่งยืนของ Global Reporting Initiative (GRI) G4 และแนวทางการเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับกลุ่มธุรกิจอาหาร (Food Processing Sector Supplement: FPSS) โดยรายงานดังกล่าวมีการเปิดเผยเป็นไปตามกรอบของ GRI ตามแนวทาง G4 แบบทางเลือกหลัก (Core option)

นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังมีการจัดทำ “Trace My Report” หรือ เส้นทางก่อนจะเป็นรายงานฉบับนี้ สำหรับรายงานในแบบรูปเล่มฉบับปีนี้ ซึ่งใช้กระดาษรีไซเคิลที่ได้รับการรับรองมาตรฐานจาก FSC® 100 เปอร์เซ็นต์ และกระดาษทั้งหมดทำจากเยื่อกระดาษที่ผ่านการใช้งานแล้ว ท่านสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการพิมพ์รายงานฉบับนี้ ซึ่งประกอบด้วย การจัดการวัตถุดิบ กระบวนการผลิต บรรจุภัณฑ์ และข้อมูลต่างๆ ได้ที่เว็บไซต์ www.seachangesustainability.org/trace-my-report 

“ไทยยูเนี่ยนให้ความสำคัญเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับแหล่งที่มาวัตถุดิบเป็นหัวใจหลักของความยั่งยืน การที่เรานำการตรวจสอบย้อนกลับนี้มาใช้กับรายงานเพื่อความยั่งยืนนับเป็นอีกตัวอย่างเรามีความภูมิใจในเรื่องความโปร่งใสของการสื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ คู่ค้า และกลุ่มอุตสาหกรรม”

ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนไทยยูเนี่ยน กล่าว “ความโปร่งใสมีความสำคัญอย่างยิ่ง เพื่อให้อุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลกทราบถึงการทำงานที่เราเดินหน้าทำเพื่อรับมือกับประเด็นต่างๆ ทั้งในระดับโลกและระดับภูมิภาค ซึ่งรายงานนี้จึงเป็นส่วนสำคัญของกระบวนการสื่อสารเหล่านั้น”

ในฐานะที่เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact: UNGC) รายงานฉบับนี้ยังทำหน้าที่เป็นรายงานความก้าวหน้าประจำปี (Communication on Progress: COP) ของไทยยูเนี่ยนที่ใช้สื่อสารกับผู้มีส่วนได้เสียโดยได้รายงานถึงความก้าวหน้าของบริษัทในการปฏิบัติตามหลัก 10 ประการของ UNGC ภายในขอบเขตของไทยยูเนี่ยน รวมทั้งรายงานความก้าวหน้าของบริษัทในการส่งเสริมให้เกิดความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (UN Sustainable Development Goals: SDGs)

รายงานเพื่อความยั่งยืน 2560 นี้เผยแพร่ทั้งในรูปแบบออนไลน์ และพิมพ์ในแบบรูปเล่มซึ่งมีทั้งภาษาอังกฤษและภาษาไทย ทั้งนี้ไทยยูเนี่ยนจะมีการเผยแพร่รายงานในรูปของ iBooks และ Kindle อีกด้วย

ท่านสามารถดาวน์โหลดรายงานเพื่อความยั่งยืน 2560 ได้ที่เว็บไซต์ของไทยยูเนี่ยน http://www.thaiunion.com/th/sustainability/report

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่งส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมากกว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 1.35 แสนล้านบาท (4.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 49,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วยแบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar, และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation – ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่องมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว จนส่งผลโดยรวมให้ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2559 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สามติดต่อกัน  นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี  FTSE4Good Emerging Index อีกด้วย  

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณวิสาขา จันทกิจ
มือถือ: +66.81.845.7316
อีเมล: Wisaka.Chantakit@thaiunion.com