ไทยยูเนี่ยนประกาศพันธกิจร่วมกับ SeaBOS เดินหน้าพัฒนาท้องทะเล

ซึ่งเป็นโครงการที่เชื่อมธุรกิจอาหารทะเลทั่วโลกเข้ากับหลักกลยุทธ์ด้านวิทยาศาสตร์

บรรยายใต้ภาพ: ฝูงปลาทูน่ากำลังว่ายในมหาสมุทร เมื่อเร็วๆ นี้ ไทยยูเนี่ยนได้ลงนามเป็นสมาชิกในโครงการ Seafood Business for Ocean Stewardship (SeaBOS) ร่วมกับหลากหลายบริษัทด้านอาหารทะเลรายใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อพัฒนาการดำเนินงานในอุตสาหกรรมอาหารทะเล (เครดิตภาพ: Shutterstock / Ugo Montaldo)

14 มิถุนายน 2560, กรุงเทพฯ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้ลงนามเป็นสมาชิกในโครงการ Seafood Business for Ocean Stewardship (SeaBOS) โดยจะมุ่งมั่นในการพัฒนาการดำเนินงาน รวมทั้งผลักดันให้ทั้งอุตสาหกรรมอาหารทะเลร่วมดำเนินตาม โดยมีเป้าหมายในการช่วยให้ทั้งโลกสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาเพื่อความยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ (United Nations Sustainable Development Goals: SDGs)

SeaBOS เป็นโครงการที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ ซึ่งเป็นการนำบริษัทอาหารทะเลรายใหญ่ของโลกมาร่วมหาทางออกเชิงวิทยาศาสตร์ที่จะสามารถตอบโจทย์ประเด็นที่อุตสาหกรรมเผชิญอยู่ ซึ่งในปี 2559 บริษัทอาหารทะเลที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 8 แห่ง ซึ่งรวมถึงไทยยูเนี่ยนด้วย ได้ร่วมกันริเริ่มโครงการนี้

ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าวว่า บริษัทที่ร่วมในโครงการ SeaBOS มีการดำเนินงานอยู่ในทุกทวีป และในทุกภาคของการผลิตอาหารทะเล นับตั้งแต่การจับปลาไปจนถึงธุรกิจการเพาะเลี้ยงน้ำ ในการสร้างความไว้วางใจและนำแนวทางด้านวิทยาศาสตร์มาประยุกต์ใช้ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกกับบริษัทของเรา อุตสาหกรรมของเรา และโลกของเรา ไทยยูเนี่ยนมีความมุ่งมั่นที่จะทำหน้าที่ของตนเพื่อให้มั่นใจว่า ทะเลของเรามีความอุดมสมบูรณ์ทั้งในปัจจุบันและในอนาคต

ผู้ร่วมลงนามทั้งหมดจะต้องปฏิบัติตามพันธกิจ ดังนี้

  • มีการทำงานอย่างจริงจัง เพื่อขจัดผลิตภัณฑ์ที่มาจากการประมงที่ผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (IUU) และการใช้แรงงานทาสในทุกรูปแบบในห่วงโซ่อุปทาน
  • การใช้และพัฒนาระบบการจัดการคุณภาพของปลาและวิธีป้องกันการเจ็บป่วยของปลาก่อนการรักษา เพื่อให้สามารถใช้อาหารสัตว์น้ำอย่างมีประสิทธิภาพ และใช้อาหารปลาที่มาจากแหล่งที่มีการจับด้วยวิธีการที่ยั่งยืน
  • การร่วมกับภาครัฐอย่างเข้มข้นในการปรับปรุงกฎระเบียบที่มีอยู่สำหรับการประมง การเพาะเลี้ยงน้ำ ท้องทะเล และอื่นๆ 

ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวพันธกิจได้ ที่นี่

พันธกิจ SeaBOS ได้ประกาศออกมาในสัปดาห์เดียวกันกับที่ไทยยูเนี่ยนเปิดเผยรายงานเพื่อความยั่งยืน ฉบับที่สี่ ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับผลการดำเนินงานของบริษัทตามตัวชี้วัดที่สำคัญและที่เป็นเป้าหมายตามที่กำหนดไว้ใน  SeaChange® ซึ่งเป็นกลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน และเมื่อเร็วๆ นี้ ไทยยูเนี่ยนได้ให้พันธสัญญาต่อแถลงการณ์ “Tuna 2020 Traceability Declaration” ในงานประชุม World Economic Forum

SeaBOS เริ่มต้นจากการเสวนาระหว่างนักวิทยาศาสตร์และผู้นำธุรกิจ ซึ่งนำไปสู่การลงนามพันธกิจ 10 ประการในการดำเนินการเพื่อพัฒนาท้องทะเล โดยมีบริษัทผู้ผลิตปลาทูน่าที่ใหญ่ที่สุดในโลกสองแห่ง ซึ่งได้แก่ ไทยยูเนี่ยน และดองวอน อินดัสทรีส์ บริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลกเมื่อเทียบจากรายได้รวมสองแห่ง คือ

บริษัท มารูฮะ นิชิโร คอร์ปอร์เรชั่น และบริษัท นิปปอน ซุยซัน ไคชา​ บริษัททำฟาร์มปลาแซลมอนที่ใหญ่ที่สุดในโลกสองแห่ง คือบริษัท มารีน ฮาร์เวสท์ เอเอสเอ และบริษัท เซอมัค ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท มิตซูบิชิ คอร์ปอร์เรชั่น และบริษัทผู้ผลิตอาหารสัตว์น้ำที่ใหญ่ที่สุดสองแห่ง คือ บริษัท สเคร็ตติ้ง ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท นูเทรโก้ และบริษัท คาร์กิลล์ อะควา นิวทริชั่น

โครงการนี้ได้รับการสนับสนุนจากผู้มีส่วนได้เสียหลายราย ซึ่งประกอบไปด้วย Stockholm Resilience Centre, Beijer Institute on Ecological Economics, Royal Swedish Academy of Science และอื่นๆ