ไทยยูเนี่ยน ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมแก่ชุมชนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร

สอดคล้องตามพันธกิจของบริษัทที่จะช่วยเหลือแก่ชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่

5 มกราคม 2564, สมุทรสาคร – จากพันธกิจของบริษัทที่จะให้ความช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ที่บริษัทมีการดำเนินธุรกิจอยู่ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ได้มอบผลิตภัณฑ์ซีเล็คปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล จำนวน 30,000 กระป๋อง ผลิตภัณฑ์ซีเล็คทูน่าสเปรด จำนวน 1,000 ชิ้น ผลิตภัณฑ์โมโนริ ขนมซีฟู้ด จำนวน 1,600 ถุง และปลากระพงแล่แช่แข็ง จำนวน 630 กิโลกรัม ให้กับศูนย์รับบริจาคเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ที่ศาลากลางจังหวัดสมุทรสาคร เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้ที่ถูกกักตัว และสนับสนุนทีมแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในสาธารณะสุขจังหวัดสมุทรสาครที่กำลังทำงานเพื่อจัดการกับการระบาดรอบใหม่ของโรคโควิด-19 ในจังหวัดสมุทรสาคร

“ไทยยูเนี่ยน มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือชุมชนในพื้นที่ที่เรามีการดำเนินธุรกิจอยู่ และในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาครมีผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ในรอบนี้เป็นจำนวนมาก” นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าว “นอกจากนี้ เราต้องการสนับสนุนเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทุกคนที่กำลังทุ่มเทความพยายามและทรัพยากรเพื่อต่อสู้กับการระบาดครั้งนี้ และเรามีความเชื่อมั่นว่า เราจะสามารถเอาชนะกับสถานการณ์ที่ท้าทายนี้ไปด้วยกันโดยเร็ว”

นายธีรพงศ์ กล่าวต่อว่า การบริจาคครั้งนี้ เป็นการสนับสนุนการทำงานด้านความยั่งยืนอย่างต่อเนื่องของบริษัท และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ ประการที่ 8 เพื่อส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ต่อเนื่องครอบคลุมและยั่งยืน รวมทั้งการจ้างงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน

ไทยยูเนี่ยนได้ให้การสนับสนุนชุมชนท้องถิ่นมายาวนาน และปีนี้บริษัทและแบรนด์ทั่วโลกของบริษัทได้มีการบริจาคผลิตภัณฑ์และสิ่งของเพื่อช่วยผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19 ได้แก่

  • แบรนด์ซีเล็ค มอบผลิตภัณฑ์ปลาแมคเคอเรล จำนวน 80,000 กระป๋อง ผ่านมูลนิธิสติ ซึ่งเป็นมูลนิธิที่ช่วยเหลือด้านสุขภาพและการศึกษาในพื้นที่ด้อยโอกาสในประเทศไทย
  • มอบผลิตภัณฑ์ทูน่า อินฟิวชั่น ซึ่งเป็นทูน่าปรุงรสบรรจุในถ้วยพร้อมทาน จำนวน 42,000 กระป๋อง ผ่านสภากาชาดไทย เพื่อส่งมอบให้บุคลากรทางการแพทย์โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์
  • บริจาคผลิตภัณฑ์ซาร์ดีน จำนวนกว่า 10,000 กระป๋อง ให้กับครัวเคลื่อนที่ของสภากาชาดไทย สำหรับช่วยเหลือผู้ที่เดือดร้อนจากโควิด-19
  • มอบผลิตภัณฑ์ซีเล็คทูน่าสเปรด จำนวน 48,000 ชิ้น ผลิตภัณฑ์ซีเล็คทูน่าและซาร์ดีน จำนวน 25,000 กระป๋อง และผลิตภัณฑ์ฟิชโช จำนวน 8,000 ซอง เพื่อส่งต่อไปยังบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและโรงพยาบาลของรัฐ ผ่านกระทรวงสาธารณสุข
  • บริจาคผลิตภัณฑ์ซีเล็คซาร์ดีน จำนวน 20,000 กระป๋อง ให้กับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19
  • แบรนด์คิวเฟรช มอบอาหารพร้อมรับประทานจำนวน 500 กล่อง ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ที่โรงพยาบาลบำราศนราดูร และมอบวัตถุดิบปลากระพงแช่แข็ง จำนวน 400 กิโลกรัม ให้กับโครงการ Chef Hug สำหรับประกอบอาหาร เพื่อช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ในชุมชนทั่วกรุงเทพ

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 126,275 ล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2562 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่เจ็ดติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหารเป็นปีที่ 2 ติดต่อกัน นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน