ไทยยูเนี่ยน เปิดตัววิดีโอสั้นโครงการการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบในประเทศไทย

บรรยายใต้ภาพ: ภาพชาวประมงบนท่าเรือทางภาคใต้ของประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่ไทยยูเนี่ยนและมาร์ส เพ็ทแคร์ ริเริ่มโครงการนำร่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัล (เครดิตภาพโดย: ไทยยูเนี่ยน)

7 พฤศจิกายน 2560 กรุงเทพฯ - บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดตัววิดีโอสั้น เกี่ยวกับนวัตกรรมโครงการนำร่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งได้เริ่มดำเนินการในประเทศไทย เมื่อเร็วๆ นี้ โดยเป็นการร่วมมือกับบริษัทมาร์ส เพ็ทแคร์และพันธมิตรในอุตสาหกรรม และหน่วยงานภาครัฐ โครงการนำร่องนี้มีศักยภาพในการปรับปรุงการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ และความโปร่งใสของทั้งน่านน้ำไทย รวมทั้งอุตสาหกรรมการประมงในภาพรวม เนื่องจากหลายประเด็นในประเทศไทยมีเกิดขึ้นกับการประมงที่อื่นๆ ทั่วโลก ​

การตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบคือ การตรวจสอบผลิตภัณฑ์แบบลงรายละเอียด นับตั้งแต่แหล่งต้นกำเนิดไปจนถึงการแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สำหรับผู้บริโภค ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ยังประโยชน์ให้ทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภคในการนำความโปร่งใสอย่างเป็นรูปธรรมมาสู่ทั้งระบบ ทั้งนี้ความท้าทายที่รายล้อมเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบมีความสำคัญยิ่งต่ออุตสาหกรรมอาหารทะเล​

“ไทยยูเนี่ยนและมาร์ส เพ็ทแคร์ ออกแบบโครงการนำร่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัล เพื่อช่วยตอบโจทย์ความท้าทายเหล่านั้น” ดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน กล่าว “การตรวจตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัลในห่วงโซ่อุปทานจะเป็นก้าวสำคัญไปสู่ความยั่งยืน”

ในวิดีโอจะแสดงให้เห็นถึง การติดตั้งระบบ Inmarsat Fleet One บนเรือประมงในประเทศไทย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องในการส่งเสริมการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งจะช่วยให้มั่นใจว่าในห่วงโซ่อุปทานของอาหารทะเลมีความโปร่งใสและมีจริยธรรมที่มากขึ้น นอกจากนี้ ยังเผยให้เห็นถึง วิธีการสื่อสารของลูกเรือ กัปตัน และเจ้าของเรือในการติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนไปทั่วโลกขณะที่ออกทะเลโดยผ่านแอปพลิเคชันสนทนาทางโทรศัพท์มือถือ ซึ่งนับเป็นครั้งแรกในอุตสาหกรรมประมงไทย  

“โครงการนำร่องนี้ เป็นก้าวสำคัญในทิศทางที่ถูกต้องสำหรับการเพิ่มความโปร่งใสและการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบในอุตสาหกรรมอาหารทะเล” ดร. แมคเบน กล่าว “ยิ่งไปกว่านั้น โครงการนี้ยังแสดงให้เห็นว่า บริษัทอย่างไทยยูเนี่ยนและมาร์ส เพ็ทแคร์เป็นผู้นำในการพยายามผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างแท้จริง ขณะที่ผู้บริโภคมีความต้องการมากขึ้นเรื่อยๆ ที่จะทราบว่า ปลาที่พวกเขาบริโภคนั้นมาจากแหล่งจับไหนและวิธีการทำประมงเพื่อให้ได้ปลาดังกล่าวนั้น  เป็นวิธีการที่ยังยืนหรือไม่ และแรงงานที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้ได้รับการดูแลอย่างไร”

ท่านสามารถชมวิดีโอนี้ผ่านทางช่องยูทูปของไทยยูเนี่ยน ตามลิงค์นี้: https://www.youtube.com/watch?v=Dow-brkJibY&feature=youtu.be.

หลังจากเผยแพร่วิดีโอตัวแรกนี้ ไทยยูเนี่ยนและมาร์ส เพ็ทแคร์ จะนำเสนอวิดีโอภาคต่อเนื่องที่เกี่ยวกับโครงการนำร่องนี้อีก 2 ชุด โดยจะเน้นเรื่องการรับฟังเสียงสะท้อนของแรงงาน และการบันทึกข้อมูลแบบอิเล็กทรอนิกส์ ตามลำดับ

โครงการนำร่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบด้วยระบบดิจิทัล สอดคล้องกับ SeaChange® กลยุทธ์ความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ซึ่งให้ความสำคัญเรื่องการตรวจสอบย้อนกลับถึงแหล่งที่มาของวัตถุดิบ เพราะเป็นหัวใจหลักกลุยทธ์ความยั่งยืน ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SeaChange® ได้ที่ : http://seachangesustainability.org/.

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่าง ๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 125 พันล้านบาท (3.7 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงาน

ทั่วโลกรวมกันมากกว่า 46,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอดในเรื่องดังกล่าว จนส่งผลโดยรวมให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2560 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน

นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี  FTSE4Good Emerging Index เมื่อเร็วๆ นี้อีกด้วย

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
นายคริสโตเฟอร์ ฮิวจ์
โทรศัพท์มือถือ: +66.625.941.089
อีเมล์: Christopher.Hughes@ThaiUnion.com