ไทยยูเนี่ยนร่วมฉลองวันสตรีสากล 2565

กรุงเทพมหานคร – 8 มีนาคม 2565 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมฉลองวันสตรีสากล ประจำปี 2565 ยกย่องผู้หญิงที่ทำงานอยู่ในองค์กร ซึ่งมีอยู่ทุกหน่วยธุรกิจในประเทศต่างๆ ทั่วโลกที่ไทยยูเนี่ยนดำเนินธุรกิจอยู่ ด้วยการแบ่งปันเรื่องราวแรงบันดาลใจและการทำงาน ทั้งในทวีปเอเชีย แอฟริกา ยุโรป และอเมริกาเหนือ ในโซเชียลมีเดียทุกสัปดาห์เริ่มจากวันนี้เป็นต้นไป

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “ที่ไทยยูเนี่ยน เราภูมิใจที่บริษัทมีพนักงานหญิงมากกว่าครึ่งหนึ่งของพนักงานทั้งหมด อย่างไรก็ตาม ภาพรวมของอุตสาหกรรมอาหารทะเลทั่วโลกยังมีความไม่เท่าเทียมทางเพศอยู่ ซึ่งไทยยูเนี่ยนได้เดินหน้าผลักดันเรื่องนี้อย่างต่อเนื่อง  และผมมองว่าในส่วนของไทยยูเนี่ยน เรายังสามารถพัฒนาในด้านนี้ได้ดียิ่งขึ้นไปอีก  ผมได้ผลักดันเรื่องความหลากหลายทางเพศในองค์กรของเราให้มากขึ้นในทุกระดับโดยเฉพาะในระดับผู้บริหาร และนับเป็นเรื่องน่ายินดีที่ในปีที่ผ่านมา บริษัทได้แต่งตั้งคณะกรรมการบริษัทใหม่​ ซึ่งเป็นผู้หญิงทั้ง 2 ท่าน คือคุณพรรณสิรี อมาตยกุล และ คุณภคพรรณ ลีวุฒินันท์”

สำหรับองค์กรที่เน้นการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งอย่างไทยยูเนี่ยน ผู้หญิงถือว่ามีความสามารถที่โดดเด่นเฉพาะตัวซึ่งมีความสำคัญกับบริษัท ทั้งยังมีความเห็นอกเห็นใจในการทำงานซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญในช่วงเวลาที่สถานการณ์ทั่วโลกมีความไม่แน่นอน และยังช่วยสร้างความสามารถในการปรับตัวให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารไทยยูเนี่ยนกล่าวเพิ่มเติม

ทีมบริหารจัดการทรัพยากรมนุษย์ของไทยยูเนี่ยนจึงผลักดันให้เกิดความหลากหลายและความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์การดูแลบุคลากรทั่วโลก ด้วยความเชื่อที่ว่าบุคลากรที่มีความหลากหลายจะนำไปสู่นวัตกรรมและความสำเร็จทางธุรกิจ บริษัทยังให้ความสำคัญในการดูแลพนักงานให้สามารถรักษาสมดุลย์เรื่องงานและชีวิตส่วนตัว  ยกตัวอย่างไทยยูเนี่ยนอเมริกาเหนือมีการขยายระยะเวลาการลาคลอดให้กับพนักงานที่เป็นพ่อและคู่ครองด้วย เพื่อช่วยดูแลครอบครัวให้กับพนักงานได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึง

สำหรับไทยยูเนี่ยนยุโรปมีการริเริ่มโครงการต่างๆ เช่น โครงการป้องกันมะเร็งสำหรับพนักงานผู้หญิงในประเทศโปแลนด์  โครงการความหลากหลายทางเพศในประเทศอังกฤษ​ การออกผลิตภัณฑ์ทูน่ากระป๋องกล่องสีชมพูในประเทศฝรั่งเศสร่วมกับสมาคมต่อต้านมะเร็งเต้านม  ไทยยูเนี่ยนยุโรปยังได้ปรับปรุงสวัสดิการให้กับพนักงานที่อยู่ในระหว่างการตั้งครรภ์

“ในประเทศไทย เรามีสวัสดิการที่หลากหลายขึ้นแก่พนักงานที่ตั้งครรภ์ รวมถึงเงินช่วยเหลือค่าครองชีพ การจัดหาพื้นที่สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่อำนวยความสะดวกในการให้นมบุตร พร้อมฝึกอบรมการดูแลเอาใจใส่ทารกแรกเกิดและโภชนาการที่ดี อีกทั้งให้สิทธิลาคลอดและการลาสำหรับคุณพ่อมือใหม่อีกด้วย” นายธีรพงศ์กล่าวทิ้งท้าย

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นกว่า 45 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 141,000 ล้านบาท (4,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ OMG MEAT เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน