ผนึกกำลัง อาร์บีเอฟ อะแวนติ กรุ๊ป และไทยยูเนี่ยน ตั้งบริษัทร่วมทุนเชิงกลยุทธ์ บุกตลาดธุรกิจส่วนผสมอาหารในประเทศอินเดีย

กรุงเทพฯ – 28 มกราคม 2565 –บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ประกาศลงนามในสัญญาจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับบริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) หรืออาร์บีเอฟ และ บริษัท Srinivasa Cystine Private Limited หรือ SCPL ในประเทศอินเดีย เปิดตัวบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่เน้นธุรกิจจัดหาวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมอาหารหรือ ingredient คุณภาพสูงให้กับตลาดในประเทศอินเดีย

บริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้เกิดขึ้นจากไทยยูเนี่ยนได้นำพันธมิตรในประเทศไทยอย่างอาร์บีเอฟ ที่มีความเข้มแข็งในด้านของธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร มาจับมือกับ SCPL บริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้นำธุรกิจผู้ผลิตอาหารทะเลในประเทศอินเดียและเป็นพันธมิตรของไทยยูเนี่ยนมาอย่างยาวนาน

บริษัทร่วมทุนนี้จะจัดจำหน่ายวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารในตลาดประเทศอินเดีย ซึ่งจะเป็นผลิตภัณฑ์จากบริษัทอาร์บีเอฟที่ครอบคลุมทั้งสารปรุงแต่งอาหารหลากหลายชนิดและ food coating รวมถึงบริษัทร่วมทุนนี้จะพิจารณาถึงความเป็นไปได้และโอกาสในการตั้งโรงงานการผลิตในประเทศอินเดีย

นอกจากนี้ บริษัทร่วมทุนนี้จัดตั้งด้วยทุนจดทะเบียน 100 ล้านรูปีอินเดีย (ทุนที่ออกและเรียกชำระแล้ว 76 ล้านรูปีอินเดีย) โดยมีอาร์บีเอฟถือหุ้นสามัญ 51 เปอร์เซ็นต์ SCPL 30 เปอร์เซ็นต์และไทยยูเนี่ยน 19 เปอร์เซ็นต์

นายสมชาย รัตนภูมิภิญโญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์ แอนด์บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนในครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญของพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ระหว่างอาร์บีเอฟและไทยยูเนี่ยน ตอกย้ำการต่อยอดการขยายธุรกิจไปด้วยกัน ด้วยธุรกิจของไทยยูเนี่ยนที่มีอยู่ทั่วโลก ทำให้เราได้ทำธุรกิจกับอะแวนติ กรุ๊ป ซึ่งมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานหลายสิบปีในประเทศอินเดีย และด้วยพันธมิตรทางธุรกิจที่แข็งแกร่ง เรามั่นใจว่าผลิตภัณฑ์วัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมของอาหารของเราจะสามารถตอบโจทย์ในการผลิตสินค้าอาหารที่ปัจจุบันเน้นการใช้นวัตกรรมมากยิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภคในอินเดีย นี่จึงนับเป็นก้าวสำคัญของอาร์บีเอฟในการจะก้าวสู่ธุรกิจในเวทีโลก”

นายอะยูริ อินดรา คูมาร์ ประธานและกรรมการ บริษัท SCPL กล่าวว่า “บริษัทมีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับอาร์บีเอฟในครั้งนี้ ซึ่งเราจะร่วมกันนำผลิตภัณฑ์ของอาร์บีเอฟเข้าสู่ตลาดอินเดีย นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังเป็นพันธมิตรของอะแวนติมาอย่างยาวนานกว่า 20 ปี อินเดียเป็นตลาดที่เติบโตเร็วและมีศักยภาพสูงสำหรับธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้ในส่วนผสมของอาหาร ทั้งวัตถุดิบสารปรุงแต่งรส สีและ food coating ด้วยความเชี่ยวชาญที่มีมาอย่างยาวนานของทุกฝ่าย ผมมีความมั่นใจว่าบริษัทร่วมทุนแห่งใหม่นี้จะตอบโจทย์ตลาดด้วยวัตถุดิบส่วนผสมอาหารคุณภาพสูงให้กับการผลิตอาหารทะเล เนื้อไก่และเนื้อสัตว์ต่างๆ”

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การจับมือระหว่างอาร์บีเอฟและอะแวนติ กรุ๊ป คือข้อพิสูจน์ถึงความแข็งแกร่งของพันธมิตรที่ดำเนินธุรกิจร่วมกันด้วยความเคารพและเชื่อใจ เราจะเห็นว่าภาคอุตสาหกรรมการส่งออกอาหารของอินเดียนั้นมีทิศทางสินค้ามูลค่าเพิ่มมากขึ้น และเป็นโอกาสของธุรกิจวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหาร การผนึกกำลังในครั้งนี้จะทำให้บริษัทร่วมทุนมีศักยภาพในการตอบสนองความต้องการที่กำลังเติบโตขึ้นได้ และด้วยเครือข่ายธุรกิจของไทยยูเนี่ยนทั่วโลก เราจะเป็นแรงสนับสนุนให้บริษัทร่วมทุนนี้เดินหน้าและเติบโตต่อไป”

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำด้านอาหารทะเลระดับโลกที่นำผลิตภัณฑ์อาหารทะเลคุณภาพสูง ดีต่อสุขภาพ อร่อย และสร้างสรรค์ มาสู่ลูกค้าทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

ปัจจุบัน ไทยยูเนี่ยนถือได้ว่าเป็นหนึ่งในผู้ผลิตอาหารทะเลชั้นนำของโลกและเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีเกินกว่า 132.4 พันล้านบาท (4.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) และแรงงานทั่วโลกกว่า 44,000 คน ที่ทุ่มเทให้กับการบุกเบิกผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่สร้างสรรค์และยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบอาหารภายใต้แบรนด์ UniQ™BONE และ UniQ™DHA และผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพแบรนด์ ZEAVITA

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 8 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2564 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน

เกี่ยวกับ บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน)

บริษัท อาร์ แอนด์ บี ฟู้ด ซัพพลาย จำกัด (มหาชน) คือผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุดิบที่ใช้เป็นส่วนผสมในอาหารที่ผ่านการวิจัยและพัฒนาโดยนวัตกรรมขั้นสูง อาทิเช่น วัตถุแต่งรส (Flavor) ที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม วัตถุแต่งกลิ่น (Fragrance) ที่ใช้เป็นส่วนผสมของน้ำหอมและเครื่องสำอาง กลุ่มสินค้า Food Coating ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและความแตกต่างให้สินค้า โดยมีฐานลูกค้าหลักในกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรม อีกทั้งยังมีสินค้าภายใต้แบรนด์ของบริษัท อาทิ เช่น อังเคิลบาร์นส์ เบสท์ โอเดอร์

จากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทมากกว่า 35 ปี บริษัทมีบุคคลากรที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญและมีประสบการณ์เป็นเวลายาวนาน ด้านการพัฒนากลิ่นและรสชาติอาหาร ทำให้บริษัทสามารถผลิตวัตถุส่วนผสมอาหารที่มีความแตกต่าง หลากหลาย และสร้างสรรค์ ในขณะที่ยังคงมีเอกลักษณ์เฉพาะ ตอบสนองความต้องการสูงสุดของลูกค้า ประกอบกับความพร้อมของเครื่องจักรและกระบวนการผลิตที่ได้รับมาตราฐานระดับสากลจากฐานการผลิตทั้ง 10 แห่งทั้งในประเทศและในภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทำให้บริษัทสามารถผลิตสินค้าตอบสนองความต้องการของลูกค้าในภูมิภาคต่างๆอย่างครบถ้วน

บริษัทมุ่งมั่นที่จะเติบโตอย่างยั่งยืนไปกับคู่ค้า พันธมิตร ตลอดจนผู้มีส่วนได้เสีย ภายใต้วิสัยทัศน์ เป็นผู้นำนวัตกรรมด้านกลิ่น รสชาติ รูปลักษณ์และเนื้อสัมผัสของอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก โดยดำเนินการตามหลักธรรมาภิบาล ควบคู่กับการดูแลสังคม และสิ่งแวดล้อม

เกี่ยวกับ Srinivasa Cystine บริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป

Srinivasa Cystine Private Limited หรือ SCPL เป็นบริษัทในเครืออะแวนติ กรุ๊ป ซึ่งก่อตั้งขึ้นในประเทศอินเดียและมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนานในธุรกิจการผลิตอาหารทะเล ด้วยยอดขายต่อปี 750 ล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้ SCPL ยังดำเนินธุรกิจจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสำหรับอุตสาหกรรมเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ และในเครืออะแวนติยังมี บริษัท อะแวนติฟีดส์ จำกัด ที่ดำเนินธุรกิจผลิตอาหารสัตว์ในฟาร์มกุ้ง และ บริษัท อะแวนติโฟรเซ่น ฟู้ดส์ จำกัด ที่ผลิตและแปรรูปกุ้งอีกด้วย

อะแวนติ กรุ๊ป บริหารโดยนายเอ อินดรา คูมาร์ ประธานและกรรมการผู้จัดการ พร้อมด้วยลูกชาย นายเอ เวนกาทา ซานจีฟ และ นายเอ นิคิเลช เชาดารี กรรมการบริหาร และครอบครัวนายอินดราถือหุ้นใหญ่ในกลุ่มบริษัท

SCPL มีเครือข่ายตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศอินเดียสำหรับสินค้าต่างๆ ซึ่งจะสนับสนุนด้านการตลาดให้กับผลิตภัณฑ์ของอาร์บีเอฟในอินเดียได้เป็นอย่างดี

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อ

วิริยาภรณ์ โปษยานนท์ โทร: +66.99.154.1254 อีเมล์: Wiriyaporn.Posayanonda@thaiunion.com

จิรวัส มนตรีวงค์ โทร: +66.80.976.4613 อีเมล์: Jirawat.Montreevong@thaiunion.com