ไทยยูเนี่ยนกรุ๊ป เจ้าของแบรนด์ Chicken of the Sea® ร่วมกับ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ เปิดตัวพันธกิจ SeaChange® Ignite


30 ตุลาคม 2561, บาหลี, ประเทศอินโดนีเซีย
แบรนด์ Chicken of the Sea® ซึ่งเป็นหนึ่งในแบรนด์ของบริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ประกาศเปิดตัวพันธกิจ SeaChange® IGNITE ซึ่งเป็นความร่วมมือเพื่อความก้าวหน้าด้านความยั่งยืน และการปรับปรุงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทาน อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมกลยุทธ์เพื่อความยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน SeaChange® สำหรับพันธกิจการร่วมมือในการริเริ่มนี้ มีมูลค่าถึง 73 ล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งความร่วมมือดังกล่าวจะมีไปจนถึงปี 2568 โดยจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และในภูมิภาคอื่นที่สำคัญด้านการผลิตอาหารทะเล

พันธกิจ SeaChange® IGNITE นี้จะทำงานร่วมกับมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (Carnegie Endowment for International Peace) เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และผู้มีส่วนได้เสียเพื่อความก้าวหน้าในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืน

ความร่วมมือดังกล่าวได้มีการประกาศในงานประชุม “Our Ocean Conference” ครั้งที่ 5 ซึ่งจัดขึ้นที่บาหลี ประเทศอินโดนีเซีย โดยดร. แดเรี่ยน แมคเบน ผู้อำนวยการกลุ่มการพัฒนาที่ยั่งยืนของไทยยูเนี่ยน ได้เข้าพบรัฐบุรุษที่มูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ จอห์น แคร์รี รวมถึงจูลี่ แพคการ์ด ผู้อำนวยการบริหารของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ (Monterey Bay Aquarium)

“ไทยยูเนี่ยนมีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ทำงานร่วมกับมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ในการริเริ่มความอย่างยั่งยืนครั้งสำคัญนี้  ซึ่งเป็นตัวอย่างที่ดีของความร่วมมือระหว่างผู้มีส่วนได้เสียหลักในการแก้ปัญหาความท้าทายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระบบห่วงโซ่อุปทานสมัยใหม่” ดร. แดเรี่ยน กล่าว “ไทยยูเนี่ยนวางเรื่องความยั่งยืนเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของเรา และพันธกิจ SeaChange® IGNITE จะเป็นก้าวต่อไปในการสร้างความมั่นใจว่า อาหารบนจานของผู้บริโภคทุกจานจะได้มาตรฐานความยั่งยืนและมีคุณภาพสูงสุด”

นอกจากนี้ พันธกิจ SeaChange® IGNITE มีจุดมุ่งหมายเพื่อบูรณาการปรับปรุงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานพร้อมกับนำส่งผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนไปยังตลาดอเมริกาเหนือ พันธกิจ SeaChange® IGNITE จะสนับสนุนความก้าวหน้าที่จำเป็นสำหรับความยั่งยืน รวมถึงแรงจูงใจโดยตรงทางเศรษฐกิจที่มีต่อผู้ผลิต และโครงการที่ได้รับการปรับปรุงและการมีส่วนร่วมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

ความร่วมมือนี้ เบื้องต้นจะมุ่งเน้นเกี่ยวกับปูม้าและกุ้งที่เลี้ยงในฟาร์ม และการจัดการกับความท้าทายที่สำคัญ เช่น การเก็บรวบรวมข้อมูล การพัฒนาตลาด การดำรงชีวิต และการปรับปรุงด้านความยั่งยืนที่ได้รับการตรวจสอบจาก Seafood Watch ให้อยู่ในหมวดของ Good Alternative และ Best Choice ในทางกลับกัน ก็จะเป็นโอกาสใหม่ในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนไปยังตลาดอเมริกาเหนือ

สำหรับการร่วมมือครั้งนี้ ได้นำ Chicken of the Sea Frozen Foods และ Chicken of the Sea ซึ่งเป็นแบรนด์ของไทยยูเนี่ยน พร้อมกับ Seafood Watch program ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญชั้นนำด้านการให้คะแนนความยั่งยืนบนพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และให้คำแนะนำเพื่อเป็นแนวทางในการปรับปรุงกลยุทธ์ นอกจากนี้ พันธกิจ SeaChange® IGNITE จะมีร่วมกับภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และผู้มีส่วนได้เสียต่างๆ ผ่านทาง Southeast Asia Fisheries and Aquaculture Initiative รวมทั้งในงานประชุมต่างๆ เพื่อปรับปรุงแนวทางใหม่ๆ ในการพัฒนาอย่างยั่งยืน

"เกือบ 20 ปีแล้ว ที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ได้ทำงานเพื่อขับเคลื่อนการผลิตอาหารทะเลทั่วโลกไปในทิศทางที่ยั่งยืนมากขึ้น" จูลี่ แพคการ์ด ผู้อำนวยการบริหารของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ กล่าว "พันธกิจนี้เป็นก้าวแรกที่สำคัญในการเร่งขับเคลื่อนความยั่งยืนของการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และจะเป็นแบบอย่างสำหรับการมีส่วนร่วมขององค์การนอกภาครัฐ รัฐบาล และบรรดาผู้ผลิตอาหารทะเล"

ในปี 2560 จอห์น แคร์รี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศแห่งสหรัฐ ได้เปิดตัวโครงการ Southeast Asia Fisheries and Aquaculture Initiative ซึ่งเป็นพันธมิตรร่วมกันระหว่างมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ และพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอร์เรย์เบย์ เพื่อพัฒนาความก้าวหน้าเรื่องความยั่งยืนในภูมิภาค และในเดือนมีนาคมการริเริ่มดังกล่าวได้รวมกลุ่มผู้นำภาคเอกชนรายใหญ่ที่งาน North America Seafood Expo และสนับสนุนให้มีการร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาความท้าทายด้านความยั่งยืนในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดังนั้นการประกาศความร่วมมือในวันนี้ ได้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของภาคเอกชนรายใหญ่ในการดึงภาคอุตสาหกรรม และภาครัฐให้มีส่วนร่วมในการทำให้เกิดความก้าวหน้าในการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืน

“การเป็นผู้นำของภาคเอกชน การมีส่วนร่วม และความร่วมมือล้วนเป็นสิ่งสำคัญในการรักษาการเปลี่ยนแปลงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานและท้องทะเล” จอห์น แคร์รี อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสหรัฐ กล่าว “ผมยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้สนับสนุนพันธกิจใหม่ที่สำคัญนี้ ซึ่งเป็นการนำภาคอุตสาหกรรม ภาครัฐ และผู้มีส่วนได้เสียมาร่วมกัน เพื่อผลักดันการแก้ไขปัญหาการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างยั่งยืนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้”

###

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 135 แสนล้านบาท (4.03 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 49,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน 

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืน

ของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน โดยอยู่ในอันดับที่หนึ่งของหมวดอุตสาหกรรมอาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี  FTSE4Good Emerging Index และเป็นผู้ชนะในหลากหลายรางวัลสำหรับการทำงานเป็นผู้นำด้านความยั่งยืน

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์

พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ (Monterey Bay Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำด้านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการแสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์มหาสมุทรผ่านโครงการด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและนโยบายสาธารณะ โครงการ Seafood Watch ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มที่ครอบคลุมเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วโลก โดยผ่านผู้นำด้านนโยบาย การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ทุกสิ่งที่เราร่วมกันทำเพื่อปกป้องอนาคตของท้องทะเลของเรา ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสามารถเข้าได้ที่ www.montereybayaquarium.org และที่ www.seafoodwatch.org

เกี่ยวกับมูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ

มูลนิธิคาร์เนกีเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศ (The Carnegie Endowment for International Peace) ใช้ประโยชน์จากเครือข่ายที่มีอยู่ทั่วโลก เพื่อสร้างการอภิปรายและให้ข้อมูลแก่ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจ ด้วยข้อมูลเชิงลึกที่เป็นอิสระและแนวคิดใหม่ๆ ที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับภัยคุกคามและโอกาสที่เป็นผลสำเร็จทั่วโลก มูลนิธิฯ มีเครือข่ายศูนย์การวิจัยนโยบายทั่วโลกในรัสเซีย จีน ยุโรป ตะวันออกกลาง อินเดีย และสหรัฐอเมริกา ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับมูลนิธิคาร์เนกีสามารถเข้าได้ที่ www.carnegieendowment.org