ไทยยูเนี่ยน บริจาคอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่ กว่า 35,000 กระป๋องในเดือนมิถุนายน 2564 ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงที่ได้รับการผลกระทบจากโควิด 19 ในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง

ทำให้ในปีนี้ บริษัทฯ มี ยอดการบริจาคอาหารสัตว์เลี้ยงทั้งหมดรวมมากกว่า 75,100 กระป๋อง

กรุงเทพฯ, 5 กรกฎาคม 2564 – บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) บริจาคอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่มากกว่า 35,000 กระป๋องในเดือนมิถุนายน 2564 ซึ่งเป็นหนึ่งในการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่องแก่ชุมชนสัตว์เลี้ยงที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19 ทั่วประเทศไทย

การบริจาคครั้งล่าสุดนี้ บริษัทฯ ได้ส่งมอบอาหารสัตว์แก่องค์กรสัตว์เลี้ยงและสถานพักพิงสัตว์จำนวน 8 แห่ง ในจังหวัดกรุงเทพฯ นนทบุรี ปทุมธานี และชลบุรี ได้แก่ Paws Bangkok องค์กรสวัสดิภาพสัตว์ The Hope Thailand บ้านกัญญาภัทรเพื่อหมาแมวที่ถูกทอดทิ้ง PickAPet4Home ป้าจุ๊บ้านพักสี่ขาเพื่อหมาจร มูลนิธิรักษ์แมวปันน้ำใจให้แมวจร สถานที่พักพิงสำหรับสุนัขพิการ Adrian Giurgu และมูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

ชุมชนสัตว์เลี้ยงจำนวนมากกำลังประสบกับความยากลำบากอันเกิดจากผลกระทบของสถานการณ์โควิด 19 การบริจาคนี้จะช่วยสนับสนุนองค์กรสัตว์เลี้ยง และสถานที่พักพิงสัตว์เลี้ยงต่างๆ ที่ดูแลสัตว์ป่วย สัตว์พิการ และสัตว์จรจัด รวมถึงช่วยแจกจ่ายอาหารเหล่านี้ให้กับอาสาสมัครตามพื้นที่ที่คอยให้อาหารและช่วยเหลือแมวและสุนัขที่อดอยากทั่วประเทศไทย

“เราตระหนักดีว่าสถานการณ์โควิด 19 ได้ส่งผลกระทบต่อชุมชนสัตว์เลี้ยงหลายแห่งที่ให้การดูแลและให้อาหารแก่สัตว์เหล่านั้น” นายพรชัย ตติยชัยทวีสุข รองประธานบริหารด้านพัฒนาลูกค้า กลุ่มธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงกล่าว “ธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงของไทยยูเนี่ยนมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนชุมชนเหล่านี้ต่อไป เพื่อช่วยให้ผู้ที่ดูแลสัตว์เลี้ยงและอาสาสมัครในชุมชนต่างๆ สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงและเหล่าสัตว์จรในช่วงเวลาที่ท้าทายนี้”

ประเทศไทยกำลังต่อสู้กับการระบาดของไวรัสโควิด 19 ระลอกที่ 3 ตั้งแต่เดือนเมษายน และไทยยูเนี่ยนได้มอบอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่ไปแล้วกว่า 75,100 กระป๋องในปีนี้ เพื่อให้สถานที่พักพิงสัตว์ องค์กรสัตว์เลี้ยง และอาสาสมัครทั่วประเทศไทยสามารถเลี้ยงดูให้อาหารสัตว์เหล่านั้นได้อย่างต่อเนื่องให้ได้มากที่สุด

“ปีที่ผ่านมาเราได้รับการร้องขอให้ช่วยเหลือสัตว์จรจัดมากกว่าที่เคย เนื่องจากสมาชิกในชุมชนและกลุ่มต่างๆ จำนวนมากที่ปกติดูแลสัตว์ต่างๆ เหล่านั้นกำลังเผชิญการตกงาน การย้ายที่อยู่ หรือเจ็บป่วย” เอมี่ บารอน ผู้ก่อตั้ง Paws Bangkok กล่าว “เราขอบคุณไทยยูเนี่ยนสำหรับการบริจาคอาหารสัตว์เลี้ยงในครั้งนี้ เพราะไม่เพียงแต่จะนำมาเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงที่เราดูเท่านั้น แต่ที่สำคัญคือช่วยให้เราได้มีส่วนร่วมกับชุมชนในวงกว้างเพื่อช่วยเหลือสัตว์ที่ไร้บ้านเหล่านั้น”

ปีเตอร์ กัลลี่ ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารองค์กร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เนื่องจากผู้คนจำนวนมากกำลังทำงานจากที่บ้านหรืออยู่แต่ในบ้าน “ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้ดูแลสัตว์เลี้ยง สถานที่พักพิงสัตว์ และกลุ่มอาสาสมัครต่างๆ มีความต้องการอาหารสัตว์อย่างมากเพื่อมาดูแลสัตว์ที่พวกเขาดูแล โดยเฉพาะแมวและสุนัขจรจัด”

“ผู้คนจำนวนมากกำลังประสบกับความยากลำบากทางการเงินอันเป็นผลกระทบมาจากการระบาดของโควิด 19 ที่มีอยู่ในขณะนี้ ซึ่งทำให้เป็นเรื่องยากสำหรับกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์เหล่านี้ในการหาอาหารมาเลี้ยงดูสัตว์เลี้ยงของพวกเขาได้ใน สถานการณ์เช่นนี้ เราได้ให้ความช่วยเหลือต่อกลุ่มผู้เลี้ยงสัตว์โดยการมอบอาหารสัตว์เลี้ยงที่ดีต่อสุขภาพและมีคุณค่าทางโภชนาการเพื่อสนับสนุนกลุ่มผู้ที่เลี้ยงสัตว์ให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ในช่วงเวลาที่ยากลำบากเช่นนี้ และการดูแลสัตว์เลี้ยงเหล่านี้เป็นงานสำคัญที่พวกเขาทำ”

บรรยายภาพ: นายปีเตอร์ กัลลี่ (ที่ 2 จากขวา) ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารองค์กร บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ส่งมอบอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่มากกว่า 4,800 กระป๋อง ให้แก่ นางเอมี่ บารอน (ที่ 3 จากขวา) ผู้ก่อตั้ง Paws ประเทศไทย เพื่อสนับสนุนผู้ดูแลสัตว์เลี้ยงและอาสาสมัครที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19

บรรยายภาพ: นายปีเตอร์ กัลลี่ ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารองค์กร บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ส่งมอบอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่ จำนวน 5,640 กระป๋อง ให้แก่ นางคะนึง ดีพา รองประธานมูลนิธิบ้านสงเคราะห์สัตว์พิการ

บรรยายภาพ: นายปีเตอร์ กัลลี่ ผู้อำนวยการกลุ่มสื่อสารองค์กร บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ส่งมอบอาหารแมวเบลล็อตต้า และอาหารสุนัขมาร์โว่ รวม 4,800 กระป๋อง ให้แก่ นางสาวทอง อาสาสมัครดูแลสัตว์เลี้ยง บ้านกัญญาภัทรเพื่อหมาแมวที่ถูกทอดทิ้ง จังหวัดปทุมธานี

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)

บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลากว่า 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลระดับโลก โดยเป็นหนึ่งในผู้ผลิตปลาทูน่าในบรรจุภัณฑ์ชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 132,402 ล้านบาท (4.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 44,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทคิดค้นผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่ และ OMG Meat รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนประกอบอาหารและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ได้แก่ UniQ™BONE, UniQ™DHA และ ZEAvita

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตก ลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัวกลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่ 7 ปีติดต่อกัน โดยในปี 2563 ได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 2 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน