Chicken of the Sea® ประกาศพันธสัญญา การเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำอย่างรับผิดชอบ เพื่อต่อยอด ความร่วมมือในพันธกิจ SeaChange® IGNITE ระหว่างพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ และไทยยูเนี่ยน

1 พฤษภาคม 2562, เอล เซกันโด, แคลิฟอร์เนีย — แบรนด์ Chicken of the Sea® ประกาศการทำพันธสัญญาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วยความรับผิดชอบ เพื่อผลักดันความพยายามที่จะให้มีการตรวจสอบย้อนได้อย่างครบถ้วนและความยั่งยืนมาสู่ห่วงโซ่อุปทานของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของ Chicken of the Sea® ซึ่งสอดคล้องกับพันธกิจ SeaChange® IGNITE

พันธสัญญานี้ทำแผนสำหรับผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของแบรนด์ Chicken of the Sea ทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ต้องสอดคล้องกับการแนะนำอันดับทางเลือกอาหารทะเลในอันดับทางเลือกที่ดี (Good Alternative) หรืออันดับทางเลือกที่ดีที่สุด (Best Choice) ในโครงการ Seafood Watch ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ และการได้รับการรับรองรวมถึงมาตรฐานความรับผิดชอบต่อสังคมจาก Global Seafood Sustainability Initiative (GSSI) หรือ Social Supply Chain Initiative (SSCI) ตลอดการตรวจสอบทั้งห่วงโซ่อุปทาน

ความคืบหน้าของพันธสัญญานี้ได้มีการจัดทำขึ้นมาอย่างเรียบร้อย โดยมีเป้าหมายที่จะบรรลุทั้งหมด 100 เปอร์เซ็นต์ภายในปี 2568 พันธสัญญานี้ได้รวมทุกขั้นตอนในกระบวนการผลิต เพื่อให้แน่ใจว่าห่วงโซ่อุปทานของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำของแบรนด์ Chicken of the Sea สามารถตรวจสอบย้อนกลับได้อย่างครบถ้วนและมีความยั่งยืน ตั้งแต่การจับไปจนถึงการบริโภค โดยมีโครงการที่กำลังดำเนินการเพื่อสนับสนุนพันธสัญญานี้ในประเทศศรีลังกา เวียดนาม และอินโดนีเซียแล้ว

"เราจะบรรลุมาตรฐานเหล่านี้ด้วยการสนับสนุนกลุ่มฟาร์มในโครงการพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ (Aquaculture Improvement Projects: AIPS) ที่อยู่ระหว่างการพัฒนาปรับปรุงด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในระดับภูมิภาค เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย เราจะยังคงเป็นพันธมิตรร่วมกับผู้มีส่วนได้เสียจากองค์การนอกภาครัฐ รัฐบาลและสมาชิกในห่วงโซ่อุปทาน เพื่อทำการปรับปรุงและนำผลิตภัณฑ์ความยั่งยืนออกสู่ตลาด" ร็อกซ์แซนน์ นานิงกา ผู้อำนวยการฝ่ายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ไทยยูเนี่ยนอเมริกาเหนือ กล่าว "SeaChange® IGNITE ทำหน้าที่เป็นยานพาหนะหลักในการขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืนบนภาคพื้นดินเพื่อให้ประสบผลสำเร็จตามมาตรฐานที่กำหนดไว้ในพันธสัญญาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำด้วยความรับผิดชอบของ Chicken of the Sea"

"ความมุ่งมั่นในการกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนของ Chicken of the Sea ที่มีความรับผิดชอบ การตรวจสอบย้อนกลับการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำเป็นเรื่องที่ดีสำหรับความยั่งยืนของอาหารทะเล" เจนนิเฟอร์ เคมเมอรี่ ผู้อำนวยการฝ่ายประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วโลกที่พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์กล่าว "ด้วยระดับขนาดการจัดหาวัตถุดิบของพวกเขานั่นหมายความว่า ความมุ่งมั่นจากความสามารถนี้จะผลักดันการปรับปรุงที่แท้จริงสำหรับฟาร์มและชุมชนทั่วโลก"

เกี่ยวกับ SeaChange® IGNITE
SeaChange® IGNITE เป็นความคิดริเริ่มที่เกิดขึ้นจากความร่วมมือของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ แบรนด์ Chicken of the Sea® และไทยยูเนี่ยน เพื่อความก้าวหน้าโครงการพัฒนาอย่างยั่งยืนใหม่ ตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานเพื่อบรรลุเป้าหมายตามกลยุทธ์ SeaChange® ของไทยยูเนี่ยน โดยจะมุ่งเน้นไปที่การพัฒนาในภูมิภาคเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และภูมิภาคที่สำคัญอื่นๆ ในการผลิตอาหารทะเล

การริเริ่มนี้ มุ่งเน้นที่จะบูรณาการการพัฒนาโดยตรงตลอดทั้งห่วงโซ่อุปทานขณะที่ส่งมอบผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืนสู่ตลาดอเมริกาเหนือ SeaChange® IGNITE จะสนับสนุนความก้าวหน้าที่จำเป็นเพื่อความยั่งยืน รวมถึงสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจโดยตรงแก่ผู้ผลิตผ่านโครงการพัฒนาและการมีส่วนร่วมตลอดห่วงโซ่อุปทาน

เกี่ยวกับ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)
บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เป็นผู้นำธุรกิจอาหารทะเลของโลก ซึ่ง ส่งมอบผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรม รสชาติดี มีประโยชน์ต่อสุขภาพ และมีคุณภาพสูงให้กับผู้บริโภคทั่วโลกมาเป็นเวลาเกือบ 40 ปี

วันนี้ บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป ได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ผลิตผลิตภัณฑ์ปลาทูน่าบรรจุภาชนะชนิดต่างๆ ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมียอดขายต่อปีมากกว่า 133.3 แสนล้านบาท (4.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ) และมีพนักงานทั่วโลกรวมกันมากกว่า 47,000 คน ซึ่งล้วนทุ่มเทเพื่อผลิตภัณฑ์อาหารทะเลที่มีนวัตกรรมและมีความยั่งยืน

ไทยยูเนี่ยนเป็นเจ้าของแบรนด์ทั่วโลก ประกอบด้วย แบรนด์ที่เป็นผู้นำตลาดโลกอย่าง Chicken of the Sea, John West, Petit Navire, Parmentier, Mareblu, King Oscar และ Rügen Fisch รวมทั้งแบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย ได้แก่ ซีเล็ค ฟิชโช คิวเฟรช โมโนริ เบลลอตต้า และมาร์โว่

จากพันธกิจในการเป็นบริษัทแห่งนวัตกรรมและดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบทั่วโลก ไทยยูเนี่ยนภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในภาคีข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (United Nations Global Compact) และเป็นผู้ร่วมก่อตั้งมูลนิธิเพื่อความยั่งยืนของอาหารทะเลสากล (International Seafood Sustainability Foundation: ISSF) ในปี 2558 ไทยยูเนี่ยนเปิดตัว กลยุทธ์ด้านความยั่งยืน SeaChange® และดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างต่อเนื่องเรื่อยมาโดยตลอด จนส่งผลให้ไทยยูเนียนได้รับการคัดเลือกให้เป็นสมาชิกของดัชนีความยั่งยืนดาวโจนส์ (Dow Jones Sustainability Indices หรือ DJSI) สำหรับตลาดเกิดใหม่มาตั้งแต่ปี 2557 และในปี 2561 ไทยยูเนี่ยนได้รับเลือกให้เป็นสมาชิกของ DJSI เป็นปีที่ห้าติดต่อกัน โดยได้รับเลือกเป็นบริษัทอันดับ 1 ของกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร นอกจากนี้ ไทยยูเนี่ยนยังได้รับการคัดเลือกให้ติดอันดับดัชนี FTSE4Good Emerging Index และได้รับอีกหลากหลายรางวัลสำหรับการเป็นผู้นำในการทำงานด้านความยั่งยืน

เกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์
พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำมอนเทอเรย์เบย์ (Monterey Bay Aquarium) เป็นพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำที่ได้รับการยอมรับมากที่สุดในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นผู้นำด้านการศึกษาทางวิทยาศาสตร์และการแสดงความคิดเห็นในการอนุรักษ์มหาสมุทรผ่านโครงการด้านวิทยาศาสตร์ทางทะเลและนโยบายสาธารณะ โครงการ Seafood Watch ของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ เป็นส่วนหนึ่งของการริเริ่มที่ครอบคลุมเพื่อพัฒนาความยั่งยืนของการทำประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำทั่วโลก โดยผ่านผู้นำด้านนโยบาย การวิจัยทางวิทยาศาสตร์ พันธมิตรในอุตสาหกรรม และการมีส่วนร่วมของผู้บริโภค ทุกสิ่งที่เราร่วมกันทำเพื่อปกป้องอนาคตของท้องทะเลของเรา ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำสามารถเข้าได้ที่ www.montereybayaquarium.org และที่ www.seafoodwatch.org

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ

เครก แร็กซ์โรด
ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสาร Chicken of the Sea
โทรศัพท์ +1.424.397.8610
มือถือ +1.858.699.9063